Page 108 - kpiebook63008
P. 108
108 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดกาญจนบุรี
ธรรมวิชญ์ฯ นั้นเป็นอดีต ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งปี 2554 และเข้าสู่
การเมืองจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “ผู้ใหญ่แหลม” นายกองค์การบริหารส่วนตำาบลตะครำ้าเอน
อำาเภอท่ามะกา (นายก อบต.) และ “ส.ส.แหลม” ในเวลาต่อมา (กำานันแดง นามสมมติ, สัมภาษณ์ 2562)
สำาหรับพลเอกสมชายฯ นั้น ความสำาเร็จทางการเมืองปฏิเสธไม่ได้ด้วยผลจากปัจจัยการเป็นคนเมืองกาญจน์
โดยกำาเนิด เติบโตและเรียนหนังสือจากโรงเรียนวิสุทธรังสีซึ่งเป็นโรงเรียนประจำาจังหวัดจึงมีรุ่นพี่รุ่นน้องจำานวน
มากและเป็นที่รู้จักกันดีของคนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นผลจากความสำาเร็จในอาชีพรับราชการในฐานะนายทหาร
ระดับสูง เข้าสู่การเมืองและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. นับจากการเลือกตั้งปี 2548, 2550 และ 2554 ภายใต้สังกัด
พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ตามลำาดับ (ณัฐพงศ์ บุญเหลือและสุวิชา วรวิเชียรวงษ์, 2559,
หน้า 101-112, 162 และ 167)
เครือข่ำยภำคประชำชนกับบทบำททำงกำรเมืองผ่ำนกำร
ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในกำรเลือกตั้งปี 2562
กระบวนการภาคประชาชนและเครือข่ายขบวนการกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น
มีความเข้มแข็งไม่น้อย และถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทนำาในการเคลื่อนไหวในประเด็นสาธารณะที่เกิดขึ้นใน
ระดับจังหวัด ภูมิภาคและระดับประเทศ กลุ่มเครือข่ายสำาคัญ ๆ ในปัจจุบันมีบทบาทร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่มีอยู่
ในพื้นที่ รวมถึงองค์กรอิสระในการขับเคลื่อนภารกิจสำาคัญ ๆ ทั้งในด้านวัฒนธรรม การจัดการสิ่งแวดล้อม
การร่วมดูแลรักษาและป้องกันการทำาลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการแหล่งท่องเที่ยว
โดยมีชื่อกลุ่มต่าง ๆ อาทิ กลุ่มปฏิรูปสื่อ ภาคประชาชน สถานีวิทยุเสียงชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี นำาโดยบุญส่ง
จันทร์ส่องรัศมี และสุนทร สุริโย ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี มีศิวโรฒ จิตนิยม (ประธานสภาองค์กร
ชุมชนตำาบลหนองสาหร่าย อำาเภอพนมทวน และพิพัฒน์ แก้วจิตคงทอง เป็นแกนนำา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดกาญจนบุรี เครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดฯ เครือข่ายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและ
ศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดฯ และเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ
(ทสม.) เป็นต้น อย่างไรก็ตามในทางการเมืองแม้ว่าการขับเคลื่อนเครือข่ายประชาชนจังหวัดกาญจบุรีจะมีพลัง
และแนวร่วมจำานวนมากก็ตาม หากแต่ในในมิติเกี่ยวกับการเมืองในระดับชาติแล้ว มิได้มีแนวคิดและการปฏิบัติ
ทางการเมืองในแนวเดียวกันแต่อย่างใด ชี้ให้เห็นว่ามีการแยกเรื่องการเมืองออกจากประเด็นความร่วมมือทำางานใน
ประเด็นสาธารณะซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือประโยชน์ในเชิงพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน ตำาบลหรือในระดับจังหวัด
ดังนั้นเมื่อผู้นำาเครือข่ายหรือขบวนการภาคประชาชนตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมืองด้วยการลงสมัคร
รับเลือก ส.ส. คนในพื้นที่หรือสมาชิกเครือข่ายประชาชนจึงมิได้ให้การสนับสนุนทั้งการลงคะแนนเสียง
และการช่วยประชาสัมพันธ์ทั้งการพูดคุยปรึกษาหารือเพื่อสร้างการสนับสนุนต่อแนวร่วมเครือข่ายฯ ที่ลงสมัคร
รับเลือกตั้งแต่อย่างใด ตัวอย่างกรณีของพรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทยนั้น ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่นั้น
นับว่ามีบทบาทเคลื่อนไหวปัญหาด้านหนี้สินเกษตรกร ปัญหาที่ดินทำากิน และปัญหาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน