Page 120 - kpiebook62009
P. 120

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเข้ารับรางวัลพระปกเกล้า ประจำปี 2562


                  2.3 แนวคิดว่าด้วยการเสริมสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์


                            2.3.1 ที่มาของการเสริมสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์

                                  ที่มาของแนวคิดที่ว่าด้วยเรื่อง “กระบวนการสร้างเสริมสันติสุขและสมานฉันท์” มาจาก

                  ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสังคม ที่ยึดโยงไว้เรื่องของอำนาจ และความไร้อำนาจ
                  ที่ไม่เท่าเทียมกัน นำมาซึ่ง “ความขัดแย้ง” ทั้งหลายอันเนื่องมาจากความไม่เท่าเทียมกันของอำนาจ

                  การใช้อำนาจ และกดทับอำนาจ ที่ทำให้มนุษย์ผู้ไร้อำนาจถูกกีดกั้นทางสังคมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งระดับของ

                  ความรุนแรงเป็นแรงผลักดันให้เกิดกระบวนการจัดการความขัดแย้ง
                                  ทฤษฎี “ความขัดแย้ง” (เดชา ตั้งสีฟ้า, 2550, น. 3) ถูกกล่าวไว้ในฐานะทั้งเป็น

                  “ผู้ทำลายและผู้สร้าง” คือ อาจก่อให้เกิดอันตราย เพราะอาจลุกลามเป็นความรุนแรง แต่ความขัดแย้งก็ถือ

                  เป็นปรากฏการณ์ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมใหม่
                                  ความขัดแย้งมาจากปัญหาความสัมพันธ์ ค่านิยมที่แตกต่างกัน ปัญหาด้านข้อมูลและ

                  การสื่อสาร ปัญหาด้านโครงสร้างที่มีระบบการจัดการที่ไม่ทั่วถึง การกระจายผลประโยชน์และการตอบสนอง

                  ความต้องการที่ไม่เท่าเทียม (มูฮัมหมัดรอฟีอี มูซอ, 2549, น. 10-11) โดยมี ระดับของความขัดแย้ง
                  (วันชัย วัฒนศัพท์, ผู้แปล, 2545 : 5-6 อ้างถึงใน มูฮัมหมัดรอฟีอี มูซอ, 2549, น. 10 ) ได้แก่

                                  (1)  ความขัดแย้งซ่อนเร้น (latent conflicts) เป็นความขัดแย้งที่มีอยู่แต่ยังไม่เกิดเต็ม

                  ที่ และยังไม่แบ่งแยกอย่างชัดเจน อาจยังไม่ตระหนักว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น
                                  (2)  ความขัดแย้งเริ่มปรากฏ (emerging conflicts) เป็นความขัดแย้งที่กำลังจะปรากฏ

                  ออกมา เริ่มเห็นว่ามีคู่กรณี มีการระบุข้อพิพาท แต่กระบวนการร่วมมือเพื่อให้เกิดการต่อรองยังไม่เกิดขึ้น

                                  (3)  ความขัดแย้งที่ปรากฏ (manifest conflicts) เป็นความขัดแย้งที่มีคู่พิพาทและ
                  มีการตอบโต้กันอย่างชัดเจน โดยอาจจะมีกระบวนการที่เข้าไปจัดการกับกรณีพิพาท

                                  ซึ่งมีระดับความสัมพันธ์ของความขัดแย้ง ได้แก่ ความขัดแย้งในตัวตน ความขัดแย้ง

                  ระหว่างบุคคลกับบุคคล ความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับชุมชน ความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับรัฐ และ
                  ความขัดแย้งของกฎหมาย โดยระดับความสัมพันธ์ของความขัดแย้งแต่ละระดับจะนำไปสู่ความรุนแรงทั้งนี้

                  ขึ้นอยู่กับกระบวนการหรือความสามารถในการจัดการเพื่อการสลายผลความขัดแย้ง

                                  และเมื่อกล่าวถึง “วงจรความขัดแย้ง” จุดเริ่มต้นมาจากความเป้าหมาย วัตถุประสงค์
                  ระบบคิด หรือผลพวงจากการกระจายทรัพยากรไม่เป็นธรรม และมีความแตกต่างกัน ความตระหนักรู้ถึง

                  ความขัดแย้งนำไปสู่การปรากฏชัดของความขัดแย้ง ที่มีระดับความขัดแย้งและความสัมพันธ์ของ

                  ความขัดแย้งที่แตกต่างกัน เป็นภาวะของการเร่งความขัดแย้ง ฉะนั้น กระบวนการที่ตามมาคือ “การจัดการ
                  ความขัดแย้ง” ซึ่งหากกระบวนการจัดการความขัดแย้งเชิงสันติวิธี ความขัดแย้งก็จะยุติลง ที่นำไปสู่

                  การเปลี่ยนแปลงที่ดี แต่หากความขัดแย้งยังสลายไม่ได้ ก็จะเข้าสู่วงจรความขัดแย้งใหม่ ฉะนั้น

                  กระบวนการจัดการความขัดแย้งสำคัญ คือ “การเสริมสร้างสันติสุขและสมานฉันท์” ดังภาพ




                                                             79
   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125