Page 178 - kpiebook62004
P. 178
บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต
3. นอกเหนือจากบทบาทคนใน บทบาทของ Party C ที่จะเป็นโครงข่ายนิรภัย (Safety net) หนุน
เสริมกระบวนการสันติภาพแล้ว บทบาทนานาชาติในฐานะฝ่ายที่สามซึ่งมีบทบาทส าคัญในการช่วยสร้าง
บรรยากาศและประคับประคองตลอดจนแทรกแซงในบางช่วงจังหวะเวลาเพื่อให้กระบวนการสันติภาพ
เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อค้นพบของ Vicenç Fisas Armengol (2013) พบว่า ในปี 2012 ร้อยละ
40 ของกระบวนการพูดคุยสันติภาพ (Peace talk) ประสบความยากล าบากในการขับเคลื่อน เพราะขาดฝ่ายที่
สามที่จะท าหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย เป็น “ประจักษ์พยาน” (Monitoring) ในระหว่างการพูดคุย
และเป็นประจักษ์พยานในเรื่องการน าข้อตกลงบนโต๊ะพูดคุยไปปฏิบัติ ตลอดจนเป็นผู้แทรกแซงยามที่เห็นว่า
กระบวนการพูดคุยจะล่ม ซึ่งหากรัฐบาลเปิดให้มีองค์กรนานาชาติที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้าน
กระบวนการสันติภาพเข้ามาช่วยประคับประคอง น่าจะท าให้กระบวนการเดินหน้าไปได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่
4. บทบาทของนานาชาติที่ส าคัญอีกประการหนึ่ง เพื่อปิดจุดอ่อนในเรื่องความรู้ ความช านาญ และ
ทักษะที่จ าเป็นส าหรับคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย คือ การฝึกอบรมเสริมศักยภาพ ทักษะความรู้ต่าง ๆ ให้กับคู่ขัดแย้ง
เพื่อให้เข้าใจในกระบวนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในรูปแบบของกระบวนการพูดคุยสันติภาพว่ามี
หลักในการท างานอย่างไร จัดบรรยากาศให้เอื้ออ านวย หรือแม้กระทั่งช่วยจัดการเวลาและเตรียมการขั้นตอน
ต่าง ๆ เพื่อให้คู่เจรจาได้พูดคุยกันจนกว่าจะสามารถตกลงกันได้ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นทั้งข้อค้นพบและเป็น
ข้อเสนอจากผู้ให้ข้อมูลที่เห็นว่า หากจะให้กระบวนการพูดคุยมีความคืบหน้าและได้ผลดีขึ้น บทบาทนานาชาติ
ควรเข้ามาเสริมในเรื่องเหล่านี้
5. สื่อมวลชนควรได้รับการส่งเสริมศักยภาพ ความรู้เรื่องกระบวนการพูดคุยสันติภาพ เพื่อท าหน้าที่
สื่อสารต่อสังคมอย่างตรงไปตรงมาและในเชิงสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมบรรยากาศ และติดตามความก้าวหน้าของ
กระบวนการพูดคุยสันติภาพมาสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคม
ข้อเสนอเชิงนโยบาย
1. รัฐควรมีนโยบายเปิดพื้นที่ส าหรับการพูดคุยเรื่องที่ละเอียดอ่อนไหว เช่น การพูดคุยเรื่องรูปแบบ
การปกครองที่เหมาะสมกับพื้นที่ สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การออกแบบการพัฒนาตามแนวทางที่
ประชาชนต้องการมิใช่ตามที่รัฐก าหนดให้ ตลอดจนการถกเถียงถึง “ประเด็น” ที่ควรจะหยิบยกขึ้นสู่โต๊ะ
เจรจา และเปิดพื้นที่ให้ผู้แห็นต่างได้แสดงความคิดเห็นและร่วมพูดคุยก าหนดอนาคตของชายแดนใต้ร่วมกัน
โดยไม่ถูกคุกคามจากฝ่ายใด
2. รัฐควรทบทวนนโยบายและมาตรการก ากับควบคุมองค์กรนานาชาติ เนื่องจากมาตรการก ากับ
ควบคุมที่รัฐไทยกระท าอยู่ ด้านหนึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของรัฐ ท าลายโอกาสของการพัฒนา
ในพื้นที่ อีกด้านหนึ่งท าให้ประเทศไทยเสียประโยชน์จากการที่องค์กรนานาชาติบางองค์กรถอนตัวจากการ
ท างานหรือการให้ทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ไป
134