Page 99 - kpiebook62002
P. 99

ความร่วมมือทวิภาคีของไทยที่มีทั้งกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคและกับประเทศนอกภูมิภาคอยู่ในลักษณะ

               ความร่วมมือระดับหน่วยงานเพื่อประสานการท างานร่วมกันในต่อต้านการค้ามนุษย์และข้อตกลงซึ่งโดยหลักจะ
               อยู่ในรูปแบบบันทึกความเข้าใจ ไทยจึงกลายเป็น “ศูนย์รวม” ความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ที่ความ

               ร่วมมือระหว่างประเทศเหล่านี้ผลักดันให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม และ

               ได้รับการเสริมสมรรถนะจากความร่วมมือกับประเทศนอกภูมิภาค ในขณะเดียวกันไทยก็มาช่วยพัฒนา
               สมรรถนะของประเทศเพื่อนบ้านให้การแก้ไขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

                       อินโดนีเซียถือเป็นตัวอย่างของแนวปฏิบัติจากต่างประเทศที่แสดงให้เห็นความพยายามปรับตัวบท

               กฎหมายและแนวปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังเพื่อยกอันดับในรายงานการค้ามนุษย์ (TIP
               Report) ขึ้น ความน่าสนใจประการหนึ่ง คือ การที่อินโดนีเซียรักษาระดับอยู่ในกลุ่มที่ 2 คงที่ได้เป็นเวลาหลาย

               ปีในขณะที่เผชิญกับปัญหาการค้ามนุษย์ที่มีการน าคนเข้าออกประเทศเช่นเดียวกับไทย ทั้งในเรื่องกฎหมาย

               ป้องกันการค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงเช่นการคุ้มครองเด็กและการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง 2 การใช้
               ผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนคดีการค้ามนุษย์ การท างานร่วมกันอย่างใกล้ชิดพนักงานสอบสวนและฝ่ายพนักงาน

               อัยการซึ่งช่วยให้การสั่งฟ้องด าเนินคดีมีประสิทธิภาพอย่างมาก ไปจนถึงการคุ้มครองและการระบุตัวเหยื่อ

               การค้ามนุษย์ที่ค านึงถึงเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และมีความพยายามเชิงรุกในการน าเทคโนโลยีอย่างแอปพลิเค
               ชันบนมือถือเข้ามาแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์

                       ดังนี้ ในเรื่องไทยกับการค้ามนุษย์นั้นจึงมีข้อเสนอแนะ คือ การท าให้การค้ามนุษย์เป็น “วาระหลัก” ที่

               ยั่งยืนไม่เปลี่ยนไปตามวาระของรัฐบาล โดยเฉพาะในระดับนโยบายต้องมีหน่วยงานถาวรเพียงแต่ต้องใช้การ
               ตัดสินใจทางการเมืองและด าเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใต้ข้อจ ากัดของการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ในระบบ

               ราชการให้มีขนาดเล็กมุ่งเน้นการท างานในเชิงวิชาการที่มีความรู้ในการจัดการเฉพาะดูแลในภาพรวม เพื่อสร้าง

               บุคลากร ถ่ายทอดองค์ความรู้ สร้างสมรรถนะให้ไทยเป็น “ศูนย์รวม” ของความร่วมมือในการต่อต้านการค้า
               มนุษย์ในอาเซียนโดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือที่ไทยมีต้นทุนที่ดีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งไทยควรถอดบทเรียน

               จากกรณีอินโดนีเซียที่จะมุ่งให้การต่อต้านการค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในเชิงการด าเนินคดีและบังคับ

               ใช้กฎหมาย การคุ้มครองเหยื่อโดยค านึงถึงสิทธิมนุษยชน และการพัฒนาแนวทางใหม่ๆ เชิงรุกด้วยการใช้
               เทคโนโลยีซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นทิศทางที่ไทยก าลังมุ่งไปแต่ต้องการการพัฒนาระบบการท างานที่รองรับเพื่อความ

               ยั่งยืน






















                                                           [83]
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104