Page 141 - kpiebook62002
P. 141

สหภาพเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การตั้งถิ่นฐานใหม่ และการพัฒนาในรัฐยะไข่ (UEHRD) และ

               หน่วยงานของรัฐบาลเมียนมา ในขณะที่ไทยเข้าไปช่วยเมียนมาแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้วยการเป็น “เพื่อนบ้านที่
               ดี” ที่แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการป้องกันปัญหาร่วมกัน และใช้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

                       อย่างไรก็ตาม ไทยและอาเซียนควรเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการผู้ย้ายถิ่นแบบไม่ปกตินั้น คือ

               การถอดบทเรียนจากลาตินอเมริกาที่เผชิญปัญหาการย้ายถิ่นของชาวโคลอมเบียจ านวนกว่า 3 ล้านคนที่ส่งผล
               กระทบกับประเทศเพื่อนบ้าน บทเรียนส าคัญประการหนึ่งที่ได้จากกรณีนี้ คือ กลไกและเครื่องมือที่พัฒนาขึ้น

               นั้นไม่จ าเป็นต้องมีผลผูกพันทางกฎหมายแต่โดยหลักอยู่ในลักษณะ “ปฏิญญา” และ “แผนปฏิบัติการ” ที่ไม่

               เพียงนิยามความหมายตรงกันแต่ยังขยายความให้ครอบคลุมสถานการณ์จริงของภูมิภาค และพิจารณาหา
               แนวทางที่เหมาะสมและยั่งยืน โดยไม่ได้ส าคัญว่าประเทศในอาเซียนต้องเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้

               ลี้ภัย ค.ศ. 1951 แต่คือการยอมรับที่จะจัดการการย้ายถิ่นแบบไม่ปกติและร่วมกันคิดหาหนทางเพื่อจัดการ

               ดังที่ William Lucy Swing ผู้อ านวยการ IOM ได้กล่าวไว้ว่า “การย้ายถิ่นไม่ใช่ปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่เป็นความ
               จริงที่ต้องจัดการ” โดยสิ่งที่ไทยต้องร่วมกับประเทศในอาเซียนพัฒนาต่อไปอย่างกรณีลาตินอเมริกา คือ

               “ระบอบการคุ้มครอง” (protection regime) ในเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อผู้ย้ายถิ่น

                       โจทย์ของประชาคมอาเซียนในปัจจุบัน จึงอยู่ที่การเปลี่ยนจากภาวะการปฏิเสธความจริงเป็นสู่การ
               พัฒนาเครื่องมือและกลไกที่สอดประสานกันระหว่างระดับภูมิภาคกับระดับประเทศ โดยเฉพาะการเคลื่อนของ

               คนในภูมิภาคนี้ที่มีลักษณะผสม ซึ่งมีได้ทั้งผู้ย้ายถิ่นทางเศรษฐกิจ แรงงานไร้ทักษะที่แสวงหาโอกาส ผู้ลักลอบ

               เข้าเมือง เหยื่อการค้ามนุษย์ ฯลฯ การแก้ปัญหาคงไม่ได้จ ากัดทางเลือกเพียงแค่การผลักดันออกนอกประเทศ
               แต่ไทยสามารถใช้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเข้าไปสร้างโอกาสหรือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อแก้ปัญหา

               ต้นทางที่ผลักดันคนให้เคลื่อนย้าย เช่น พื้นที่ชายแดน รวมถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายบริหารจัดการคนเข้า

               เมืองที่เปลี่ยนจากการควบคุม (control) ที่ห้ามเข้าประเทศ เป็นการวางกฎระเบียบการเคลื่อนย้าย (regulate)
               มากยิ่งขึ้น เพราะในความเป็นจริงผู้ที่ย้ายถิ่นล้วนต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นและไทยดึงดูดให้คนมาหางานท า

               กฎเกณฑ์ที่วางไว้ควรผ่อนคลายให้มากที่สุดเท่าที่ท าได้ เพราะหากเดินทางมายากก็จะกลับกลายเป็นการเปิด

               ช่องให้ขบวนการแสวงหาผลประโยชน์โดยต้องจ่ายเงินหรือขายตัวในลักษณะแรงงานบังคับ โดยถึงที่สุดแล้ว
               อาจพิจารณาเก็บภาษีจากคนเหล่านี้เพื่อน ามาเป็นสวัสดิการสังคมในเรื่องการดูแลสุขภาพและการศึกษา (สุภ

               ลักษณ์ กาญจนขุนดี, สัมภาษณ์, 22 มีนาคม 2562)






















                                                          [125]
   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146