Page 47 - b29416_Fulltext
P. 47

ตัวชี้วัดด้านผลผลิต (Product): ตัวชี้วัดสามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
                                   ๑.อัตราการมีงานท าของประชาชนที่ยากจน

                                   ๒.รายได้ของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ
                                   ๓.ความพึงพอใจของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ
                                 ตัวชี้วัดด้านผลลัพธ์ (Outcomes): ตัวชี้วัดสามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
                                   ๑.คุณภาพชีวิตของตนเอง และครอบครัวตามเกณฑ์มาตรฐาน

                                   ๒.การไม่อพยพย้ายถิ่น
                                   ๓.การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน
                                 ตัวชี้วัดด้านผลกระทบ (Impact): ตัวชี้วัดสามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
                                   ๑.ผลกระทบทางบวก/เป็นผลที่คาดหวังจากการมีโครงการ

                                   ๒.ผลกระทบทางลบ/เป็นผลที่ไม่คาดหวังจากโครงการ

                                 จะเห็นได้ว่ารูปแบบการประเมิน แบบ CIPP Model เป็นเกณฑ์และตัวชี้วัดดังกล่าวนี้
                  สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินผลโครงการหรือนโยบายได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะครอบคลุมทั้งในมิติด้าน
                  เศรษฐกิจ สังคม ด้านบริหารจัดการ ด้านทรัพยากร และด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถวัด

                  ความส าเร็จ และความล้มเหลวของโครงการพัฒนาต่าง ๆ ได้ ซึ่งในการประเมินผลจะต้องน าเกณฑ์ และตัวชี้วัด
                  ดังกล่าวมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะ และบริบทของโครงการด้วย และจากการศึกษาถึงแนวคิดการ
                  ประเมินโครงการของ สตัฟเฟิลบีม สรุปได้ว่ารูปแบบ การประเมินโครงการแบบ CIPP Model  เป็นรูปแบบการ
                  ประเมินที่มีความต่อเนื่องกันในการด าเนินงาน อย่างครบวงจร มีการเก็บรวมรวมข้อมูลตามที่ได้ก าหนดไว้ แล้ว
                  น าข้อมูลที่ได้นั้นจัดท าให้เป็นสารสนเทศ เพื่อน าโครงการไปปฏิบัติ เพื่อปรับปรุงโครงการอย่างทันท่วงที โดย

                  แบ่งเป็น ๔ ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยน าเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต

                         ๖. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

                                 การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่าง
                  ยั่งยืน นอกจากแนวคิดที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีงานศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก  เช่น
                  การศึกษาด้านวิสาหกิจชุมชน  การท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการศึกษาการพัฒนา
                  เศรษฐกิจฐานรากได้ ดังนี้

                                 เอกพงศ์ แก้วมา (๒๕๕๕) ศึกษาเรื่อง “การจัดการวิสาหกิจชุมชน : กรณีศึกษาโรงแป้ง

                  ขนมจีน ต าบลกะหรอ อ าเภอนบพิต า จังหวัดนครศรีธรรมราช” ผลการศึกษาพบว่า การจัดการวิสาหกิจชุมชน
                  มีการแบ่งการจัดการเป็น ๔ ด้าน ได้แก่ การจัดการคน  การจัดการการผลิต การจัดการการตลาด และการจัด
                  การเงิน และปัจจัยที่ท าให้วิสาหกิตชุมชนประสบผลส าเร็จ ประกอบด้วย ๑) ปัจจัยภายในวิสาหกิจชุมชน ได้แก่
                  ผู้น า คณะกรรมการ โครงสร้างการบริหาร  ระบบจัดการ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ และเครือข่าย ๒) ปัจจัย

                  ภายนอก ได้แก่ การสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก การยอมรับ ปฏิสัมพันธ์ที่ดีจากภายนอก และคู่ค้าของ
                  วิสาหกิจชุมชน
                                 สุเทพ เพชรธรรมรัตน์ (๒๕๕๖)  ศึกษาเรื่อง “วิสาหกิจชุมชนกับการพัฒนาแบบพึ่งตนเอง:
                  กรณีศึกษาศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านเขาถ้ าพระ ต าบลดอนทราย อ าเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี”





                                      รายงานฉบับสมบูรณ์การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน   ๑๘
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52