Page 112 - 22665_Fulltext
P. 112
95
รวมถึงการสนับสนุนการปลูกป่าโกงกางจากภาคเอกชน ในอดีตมีป่าโกงกางน้อย เมื่อปี
2554 มีการสนับสนุนจากปทต. 1 ล้านต้นแรก ในการปลูกป่าโกงกาง ท าให้ปูแสมเกิดขึ้นเยอะ เป็นป่า
เลนใหม่ทั้งหมดเลย และป่าโกงกางยังได้มาจากการปลูกโดยนักท่องเที่ยว
การท างานของกลุ่มบ้านแหลมโฮมสเตย์ เน้นความร่วมมือกับผู้น าที่เป็นทางการ เชิญ
ผู้น าทั้งผู้ใหญ่บ้านและอบต.อย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ส าหรับกลุ่มที่เราท า เราเชิญผู้ใหญ่บ้าน อบต. จนบอกพวกเราว่าวันหลังไม่ต้องแล้วก็
ได้ ให้พวกเธอท าไป คือตอนแรกเราก็ให้เกียรติมาทุก ๆ ครั้ง จนบางทีเขาเองก็มีภาระงานอย่างอื่น
เขาบอกท าไปเลยมีอะไรแล้วค่อยไปบอก อันนั้นผมว่าเป็นโอกาสของชุมชนของเราด้วย เพราะบาง
ชุมชน บางทีเราไปเจอเพื่อนเขาบอกผู้ใหญ่เขาไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้น ส าหรับชุมชนเราผมก็ถือว่าเป็น
โอกาสในการขับเคลื่อนของกลุ่มเราด้วยเวลาเราท าอะไร” (สันติ, สัมภาษณ์, 1 มีนาคม 2564)
3.3 บทสรุป
การวัดระดับสันติภาพในสากลเพื่อเปรียบเทียบสันติภาพของแต่ละประเทศมีการศึกษา
โดยหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น Global Peace Index และ Positive Peace Index วัดโดย Institute
for Economics and Peace หรือ Fragile State Index วัดโดย Fund For Peace การวัดระดับ
สันติภาพในระดับมหภาคที่กล่าวมาล้วนแต่ค านึงถึงบริบทในทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
กล่าวคือมีการสร้างตัวชี้วัดเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวโดยดูบริบทที่หลากหลายมิได้ดูเพียงด้านใดด้านหนึ่ง
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งการวัดสันติภาพ มีงานที่เสนอแนะว่าการวัดสันติภาพจ าเป็นต้องพิจารณาใน
ระดับจุลภาค คือค านึงถึงแต่ละบริบท ตัวชี้วัดย่อมมีความแตกต่างกันในการวัดระดับสันติภาพ เช่น
ในงาน Everyday Peace Indicator ศึกษาโดย Firchow การวัดสันติภาพของสากลในระดับมหภาค
และจุลภาค จึงมีจุดร่วมเหมือนกันคือการค านึงถึงบริบทที่หลากหลายทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และ
การเมือง ดังนั้น งานวิจัยเรื่องนี้ที่เน้นบริบททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้จึงจ าเป็นต้อง
ศึกษาบริบทที่หลากหลายเพื่อเข้าใจสันติภาพและกระบวนการจัดการความขัดแย้งโดยคนกลาง
กล่าวให้ลึกลงไป ท าไมจึงต้องท าความเข้าใจบริบทในชุมชน บริบทมีความส าคัญอย่างไร
การเข้าใจบริบทอธิบายเชื่อมโยงได้กับการศึกษาแนวทางชาติพันธุ์วิทยา (Ethnographic Approach)
Autesserre เอาแตแซร์ เซวาลีน ได้อธิบายว่าท าไมการสร้างสันติภาพจึงล้มเหลว เพราะใช้แนวทาง
กว้าง (Broad) ที่เป็นความรู้จากนอกชุมชนหรือจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่าจาก ท้องถิ่น (Local
Knowledge) โดยใช้องค์ความ รู้จากผู้เชี่ยวชาญ ใช้การวัดสันติภาพจากระดับมหภาค แต่ควรใช้
แนวทางชาติพันธุ์วิทยา ที่เน้นบริบทวัฒนธรรมท้องถิ่น (Local Culture) ประวัติศาสตร์ จะท าให้เข้า
ใจความขัดแย้งที่มีพลวัต (Capland, 2019, pp. 107 - 118)