Page 46 - 22385_Fulltext
P. 46
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
เพื่อความปลอดภัยของผู้หญิงเอง การลดเงินเดือนหรือไล่ออกด้วยเหตุผล ฉบับที่ 75 (พ.ศ. 2555) และกำหนดให้ใช้คำว่า “ภาวะเพศสภาพไม่ตรง
เรื่องตั้งครรภ์หรือลาคลอดแต่ภายใต้ข้ออ้างเรื่องปริมาณพนักงานที่มีมาก กับเพศกำเนิด” (Gender Identity Disorder) แทนคำว่า “โรคจิตถาวร”
เกินไป หรือผลการทำงานไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เป็นต้น ซึ่งปัญหา ในเอกสาร สด.43 เนื่องจากเป็นคำที่ส่งผลกระทบต่อสถานะของบุคคล
เหล่านี้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอาจจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนว่าจะทำให้ ทำให้บุคคลนั้นเป็นเสมือนผู้ไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อ
การรับรู้และความเข้าใจที่มีต่อ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ถูกต้องและ การสมัครงาน รวมถึงอาจทำให้ไม่สามารถทำนิติกรรมได้ กรณีที่สองคือ
กว้างขวางยิ่งขึ้นได้อย่างไร หรือในที่สุดแล้วกฎหมายฉบับนี้ยังจำเป็นต่อ ข้อผ่อนคลายที่ให้สิทธิกับบุคคลที่มีความกำกวมทางเพศแต่กำเนิด
ผู้หญิงและผู้ชายอยู่อีกหรือไม่ หากยังจำเป็นอยู่ยังขาดกลไกใดที่จะช่วย (Intersex) สามารถยื่นคำร้องพร้อมใบรับรองแพทย์ขอเปลี่ยนคำนำหน้านาม
ทำให้ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ สามารถคุ้มครองบุคคลทุกเพศทุกวัย ได้หากต้องการเปลี่ยนเพศจากเดิมที่เคยแจ้งไว้เมื่อตอนจดทะเบียนเกิด
ได้อย่างแท้จริงสมตามเจตนารมณ์ แต่แน่นอนว่าจนถึงปัจจุบันรัฐไทยยังไม่ให้สิทธิดังกล่าวกับบุคคลที่ไม่มีเพศ
กำกวมแต่กำเนิด แต่ได้มีการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว (Transgender)
4.2 ข้อเท็จจริงและสถานการณ์สิทธิของกลุ่มผู้มี
ความหลากหลายทางเพศก่อนและหลังบังคับใช้ หากพิจารณาสถานการณ์ก่อนปี พ.ศ. 2558 จากงานวิจัยเรื่อง
พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ อัตลักษณ์และวิถีทางเพศในประเทศไทยที่ศึกษาไว้โดยบุษกร สุริยสาร
ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศ (International
ในส่วนของสถานการณ์ที่เกี่ยวกับสิทธิของผู้มีความหลากหลาย Labor Organization) จะพบว่า มีการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่มี
18
ทางเพศ (lesbian, gay, bisexual, transgender, queer รวมทั้ง ความหลากหลายทางเพศในตลาดแรงงานตลอดวงจรการทำงาน ตั้งแต่
intersex - LGBTQI) นั้น อาจกล่าวได้ว่าความก้าวหน้าในการคุ้มครอง การปฏิเสธการรับเข้าทำงาน ไม่ได้รับการฝึกอบรม ไม่ได้รับการเลื่อน
สิทธิของบุคคลกลุ่มนี้ที่สำคัญ ๆ ก่อนปี พ.ศ. 2558 มีเพียงสองกรณี ตำแหน่ง ไปจนถึงการเลิกจ้างอย่างไร้เหตุผล หรือด้วยเหตุเพียงเพราะ
เท่านั้น กรณีแรกคือ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับการบันทึก บุคคลนั้นมีวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างออกไป และการเลือก
ผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน (เอกสาร สด. 43) สำหรับบุคคลที่มี ปฏิบัติในลักษณะเดียวกันนี้ยังคงปรากฏอยู่เช่นเดิมแม้ พ.ร.บ.
ความหลากหลายทางเพศ โดยผลของคำวินิจฉัยศาลปกครองกลางเมื่อ ความเท่าเทียมฯ มีผลใช้บังคับแล้ว โดยสะท้อนจากรายงานวิจัยของ
17
วันที่ 13 กันยายน 2554 ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขกฎกระทรวงกลาโหม
18 บุษกร สุริยสาร, อัตลักษณ์และวิถีทางเพศในประเทศไทย, กรุงเทพฯ:
17 ดู คำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ 1550/2554, สืบค้น องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐ
วันที่ 15 มีนาคม 2564, เข้าถึงได้ที่ https://www.senate.go.th/assets/portals/93/ ประชาธิปไตยประชาชนลาว, โครงการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียม
fileups/272/files/S%E0%B9%88ub_Jun/7con/ad39.pdf ในโลกของการทำงาน, 2557
0 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า