Page 49 - 22385_Fulltext
P. 49
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
ต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ และพร้อมสนับสนุนความเท่าเทียมและ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นพวกหลงเพศ มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน
การเข้าถึงบริการต่าง ๆ ในสังคม แต่การยอมรับและสนับสนุนดังกล่าว ไม่เหมาะสมและเป็นคนที่ควรได้รับการแก้ไข จนทำให้เกิดการเรียนรู้
21
จะลดลงทันทีหากผู้มีความหลากหลายทางเพศนั้นเป็นนักเรียน แบบผิด ๆ ในกลุ่มนักเรียน รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาด้วย
เพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่ายินดีว่านับตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นมา
ส่งผลให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเลือกที่จะเปิดเผยตนเอง กระทรวงศึกษาฯ ได้ประกาศใช้ตำราเรียนสุขศึกษาและพลศึกษาใหม่
ต่อคนนอกครอบครัวมากกว่าเพราะรู้สึกว่าได้รับการยอมรับ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ร่วมตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่า ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมส่วนความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ
ตนเคยถูกเลือกปฏิบัติอย่างน้อยรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ทั้งยังถูกจำกัด ไว้ในทุกมิติแล้ว ทั้งนี้ โดยการผลักดันของภาคประชาสังคมนำโดย
การแสดงออกทางเพศในบางสถานที่ เช่น สถานศึกษา ที่ทำงาน กระทั่ง สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ซึ่งทำงานเรื่องนี้มายาวนานกว่า 2 ปี
22
ที่บ้าน แม้ร้อยละของผู้รู้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงไปจากปี 2561 บ้างแต่ก็ยังมี แม้รายงานวิจัยฉบับต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาจะทำการสำรวจไว้
ถึงร้อยละ 44 ของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ยังไม่รู้ว่ามี พ.ร.บ. ตั้งแต่ปี 2561-2562 แต่ก็เป็นการสำรวจภายหลัง พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ
ความเท่าเทียมฯ ในขณะที่เกินครึ่งของประชากรทั่วไปไม่รู้ว่ามีกฎหมาย มีผลบังคับใช้แล้วถึงกว่าสี่ปี จึงย่อมแสดงให้เห็นว่าแม้รัฐจะบัญญัติ
ฉบับนี้แล้ว งานวิจัยชี้ว่าผู้มีความหลากหลายทางเพศทั่วโลกต้องพบ กฎหมายหรือพยายามสร้างกลไกต่าง ๆ มากมายเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติ
ความยากลำบากในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ทั้ง ๆ ที่ต้องเผชิญกับ ด้วยเหตุแห่งเพศแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันแนวคิดของคนส่วนใหญ่
ความเครียดจากการถูกเลือกปฏิบัติอันไม่เป็นธรรมจนส่งผลต่อสุขภาพจิต
และสุขภาพกาย รวมทั้งปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคที่เกิดจากการมี 21
เพศสัมพันธ์ เป็นต้น วิจิตร ว่องสารีทิพย์, ความหลากหลายทางเพศในแบบเรียนไทย,
กรุงเทพฯ: มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ, 2559
ผลสำรวจที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งจากงานวิจัยคือ แม้ปัจจุบัน 22 ดู “กระทรวงศึกษาฯ ปรับหลักสูตรวิชาสุขศึกษา เพิ่มเนื้อหา LGBTQ
กว่าร้อยละ 60 ของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาจะมีการสอนวิชา ลงในหนังสือเรียน”, เว็บไซต์รักลูก, สืบค้นวันที่ 18 พฤษภาคม 2564, เข้าถึงได้ที่
เพศศึกษาตามที่บรรจุไว้ในหลักสูตรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 แต่กระนั้น https://www.rakluke.com/learning-all/education/item/lgbtq.html อนึ่ง
เป็นที่น่าสนใจว่า ในขณะที่แบบเรียนดังกล่าวได้รับการแก้ไขปรับปรุงในประเด็น
โรงเรียนจำนวนมากยังคงเน้นให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์และเพศสรีระ ความหลากหลายทางเพศ แต่กลับปรากฏว่ามีเนื้อหาที่ยังสะท้อนว่าสิทธิของผู้ชาย
โดยไม่มีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงประเด็นวิถีทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ หรือ อยู่เหนือผู้หญิงอย่างชัดเจน ซึ่งขัดกับหลักความเสมอภาคระหว่างเพศ ดู “พบหลักสูตร
ลักษณะทางเพศที่หลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้นแบบเรียนสุขศึกษาระดับ แบบเรียนไทย เนื้อหาลดทอนคุณค่าผู้หญิง ตอกย้ำความเชื่อชายเหนือกว่า”,
มัธยมในประเทศไทยยังเคยนำเสนอแนวคิดและภาพลักษณ์ว่า Workpointtoday, สืบค้นวันที่ 18 พฤษภาคม 2564, เข้าถึงได้ที่ https://
workpointtoday.com/textbook/
สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า 35