Page 93 - kpi22350
P. 93
โดยมีข้อเสนอแนะแนวทาง ดังนี้ (1) รัฐส่วนกลางจะต้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
ทุกกลุ่มในเมืองอย่างทั่วถึง จัดหาบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
รายงานสถานการณ์ ให้กับประชาชนในเมือง (2) รัฐส่วนกลางจะต้องคิดถึงเรื่องของการกระจายทรัพยากรไปสู่ภูมิภาคและ
ท้องถิ่นให้มากขึ้น เพราะการกระจายทรัพยากรไปสู่พื้นที่หรือท้องถิ่นจะช่วยให้ประชาชนทุกคนได้รับโอกาส
อย่างเท่าเทียมกัน ลดการกระจุกตัวของเมืองใหญ่ และเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการพื้นที่/เมืองของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ (3) รัฐส่วนกลางไม่เพียงแต่กระจายงาน กระจายเงิน กระจายคนเท่านั้น
แต่จะต้องกระจายองค์ความรู้ในการจัดการวิกฤติไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย เพื่อให้สามารถ
จัดการกับวิกฤติต่างๆ ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดแล้วการกระจายอำนาจที่ดีจะช่วยให้
ส่วนที่ 1 บทสำรวจว่าด้วยบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการจัดการวิกฤติท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
พื้นที่หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดบริการสาธารณะที่ดีและมีคุณภาพให้กับประชาชนได้
ลดความเปราะบางของเมือง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้คนที่หลากหลายในเมืองสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ
ได้อย่างเท่าเทียมกัน
= พัฒนาระบบสาธารณสุขในระดับชุมชน การพัฒนาเมืองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ที่ผ่านมานั้นมักจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองเป็นหลัก เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา
เป็นต้น ขณะที่การพัฒนาด้านสาธารณสุขชุมชนกลับไม่ได้รับความสำคัญมากนัก การแพร่ระบาดของ
โควิด-19 ในครั้งนี้ได้ทำให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการพัฒนาสาธารณสุขในระดับชุมชนมากขึ้น
ไม่เพียงแต่การดูแลสุขภาพร่างกาย การส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในชุมชน การป้องกันโรค และ
การรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการจัดการระบบสาธารณสุขในระดับชุมชนที่ยั่งยืน โดยการมุ่งเน้น
บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ภาคีเครือข่ายและ
ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างระบบสาธารณสุขในชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพา
ตนเองในสภาวะวิกฤติโรคระบาด
สำหรับกระบวนการสร้างชุมชนที่สามารถจัดการตนเองด้านสาธารณสุขได้นั้น จะต้องเริ่มต้น
จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ อสม. ทำหน้าที่เป็น
พี่เลี้ยงและถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดบริการสาธารณสุขให้แก่บุคคลทุกเพศทุกวัยในชุมชน จากนั้น
เมื่อประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจด้านสาธารณสุขที่ดีแล้ว จึงถ่ายทอดกระบวนการทำงานแบบเครือข่าย
สุขภาพชุมชน ซึ่งประกอบไปด้วยเครือข่าย 3 กลุ่ม นั่นก็คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ/เอกชน
และภาคประชาชนในพื้นที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการสาธารณสุขในระดับชุมชนด้วยกัน ท้ายที่สุด
จึงสร้างทีมงานด้านสาธารณสุขที่ประกอบด้วยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนขึ้นมา เพื่อให้สามารถขยายผล
การดำเนินงานด้านสุขภาพในระดับชุมชนได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
= เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล การแพร่ระบาดของโควิด-19
เป็นเสมือนตัวเร่งให้องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ต้องปรับตัวไปสู่ยุคเทคโนโลยีและดิจิทัลเร็วขึ้น เพราะ
การประกาศมาตรการล็อคดาวน์ให้ประชาชนและองค์กรต่างๆ สามารถทำงานจากที่บ้านได้ (work from
home) ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวกับการใช้เทคโนโลยีที่มากขึ้น ดังเช่น องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นได้นำระบบ e-service มาให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง การใช้แอพลิเคชั่น Zoom
สำหรับการประชุมสื่อสารระหว่างกันในองค์กร การพัฒนาแอพลิเคชั่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ รวมไปถึงการนำแอพลิเคชั่นมาใช้สำหรับการลงทะเบียนผู้เดินทางเข้า-ออกพื้นที่
82 สถาบันพระปกเกล้า