Page 16 - kpi22350
P. 16
ที่บ้าน (Work From Home) และแนะนำให้บุคคลที่มีโรคประจำตัว บุคคลที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และบุคคลที่
มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้อาศัยอยู่ที่บ้าน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องออกจากบ้าน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการ
ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังมีคำสั่งด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ตั้งด่านตรวจหรือ
จุดสกัด เพื่อดูแลการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด และเฝ้าระวังหรือสังเกตพฤติกรรมผู้เดินทางที่เสี่ยงต่อ รายงานสถานการณ์
การติดโรคด้วย
4
นับได้ว่า การตัดสินใจแบบยอมเจ็บเพื่อให้จบในระลอกแรกนั้น ประเทศไทยสามารถควบคุม
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดี หากเทียบกับรถยนต์แล้วเปรียบเสมือนเบรกที่ทำงานอย่าง
รวดเร็วทั้งในแง่ของการสาธารณสุขและการเมืองที่ประสานความร่วมมือและการตัดสินใจที่แน่วแน่ฉับไว
จนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสไว้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการควบคุมโรคในชุมชนด้วยระบบ
สาธารณสุขมูลฐาน (อสม.) อีกทั้งยังมีความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ช่วยกันดูแลตนเองและชุมชน
เป็นอย่างดี
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 เปรียบเสมือนคลื่นยักษ์ลูกใหม่ที่ได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อช่วงค่ำกลางเดือนธันวาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้แถลงข่าวด่วน เรื่องจำนวน
ผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 500 คน ซึ่งสร้างสถิติใหม่
ที่มีผู้ป่วยรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดในประเทศไทย สมมติฐานการระบาดในครั้งนี้น่าจะมีจุดเริ่มต้น
มาจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและไม่ผ่านมาตรการกักตัว
ของรัฐ รัฐบาลจึงสั่งให้เร่งตรวจสอบและคัดกรองโรคเชิงรุกอย่างรวดเร็ว ยิ่งตรวจยิ่งควบคุมโรคได้ ก็ยิ่งพบว่า
การกระจายตัวของเชื้อได้แพร่ไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้จำกัดเพียงแค่กลุ่มแรงงานข้ามชาติในจังหวัดสมุทรสาคร
เท่านั้น แต่ยังกระจายออกไปเป็นวงกว้างตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ นั่นคือ กลุ่มแรงงานข้ามชาติใน
ตลาดกลางกุ้ง แพร่ไปสู่ผู้ที่มาซื้อ-ขายวัตถุดิบ ผู้ขนส่งวัตถุดิบ และแพร่ไปสู่ผู้บริโภค/ประชาชนทั่วไป
ในท้ายที่สุด ซึ่งการระบาดในระลอกนี้นับเป็นบทเรียนให้กับเราได้เป็นอย่างดีว่า การไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ
ในประเทศไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศ และการเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยงทุกกลุ่มก็เป็น ส่วนที่ 1 บทสำรวจว่าด้วยบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการจัดการวิกฤติท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
สิ่งจำเป็นที่รัฐจะต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
เพราะเรื่องปากท้องของประชาชนและเศรษฐกิจก็สำคัญไม่แพ้กัน!! การตัดสินใจใช้การแพทย์
นำการเมืองอีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลมีความระมัดระวังมากขึ้น รัฐบาลไม่ได้ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ
อย่างที่ผ่านมา หากแต่ใช้วิธีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร
และจังหวัดปริมณฑล สถานการณ์การแพร่ระบาดในระลอกที่ 2 นับว่าเป็นบทเรียนให้กับทุกภาคส่วน
จะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเลวร้ายมากขึ้น ไม่เพียงแต่เรื่องการระบาด การเยียวยา
ประชาชน การเฝ้าระวังกลุ่มเปราะบางทางสังคม และการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาไล่เลี่ยกับระลอกที่ 2 ภายหลัง
จากที่รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ได้ไม่นาน ประชาชนกำลังมีความหวังว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
เศรษฐกิจของประเทศก็เริ่มเห็นแสงสว่างว่ากำลังจะดีขึ้นในเร็ววัน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
4 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน. (25 มีนาคม 2563). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 137 ตอนพิเศษ
69 ง. หน้า 10.
สถาบันพระปกเกล้า 5