Page 117 - 22221_Fulltext
P. 117
11
การเปิดพื้นที่กิจกรรมเพื่อสร้างสันติสุขโดยกิจกรรมภาคกลางคืน
ย้อนกลับไปในอดีตก่อนปี พ.ศ. 2547 ในพื้นที่ตำบลท่าสาปพี่น้องไทยพุทธและ
ไทยมุสลิม ใช้ชีวิตกันอย่างรักใคร่ฉันท์พี่น้อง มีการไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน ไม่มีการแบ่งแยก
ความแตกต่างในด้านศาสนาและวัฒนธรรม แต่จากเหตุการณ์นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งมี
เหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ตำบลท่าสาป จังหวัดยะลา เป็นหนึ่ง
ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่
การใช้ชีวิต การประกอบอาชีพ การทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่พหุวัฒนธรรม ต่างเกิดความ
หวาดระแวงซึ่งกันและกัน กลัวที่จะไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน กลัวที่จะพุดคุยกัน เกิดสังคมแห่ง
ความหวาดระแวง ขาดการพึ่งพาอาศัยกัน พื้นที่ตำบลท่าสาปกลายเป็นพื้นที่ปิดต่างคนต่างอยู่
ซึ่งต่างจากในอดีตที่ประชาชนมีความจริงใจต่อกัน เป็นที่พึ่งของกันและกันได้ ซึ่งในพื้นที่ตำบล
ท่าสาปได้รับผลกระทบโดยตรง คือ พี่น้องไทยพุทธถูกลอบยิง และถูกลอบวางระเบิดในพื้นที่
และการก่อกวนต่างๆ ทำให้พี่น้องทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมเกิดความหวาดกลัวต่อกัน
ต้องอาศัยอยู่กันอย่างหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เมื่อถึงเวลาค่ำต่างฝ่ายต่างอาศัยอยู่ในบ้าน
ของตนเองไม่กล้าที่จะออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ในส่วนพื้นที่ หมู่ที่ 1 เป็นชุมชนไทยพุทธ
ร้อยละ 100 ได้รวมกันทำแผงกั้นปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอก
เข้า-ออกพื้นที่ มีแผงประตูเหล็กกั้นทางเข้า-ออก โดยจะเปิดเวลา 06.00 น.และจะปิดในเวลา
19.00 น. ทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดไปโดยปริยาย
จากปัญหาดังกล่าว ทางเทศบาลตำบลท่าสาป คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน
ผู้นำท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงภาคีเครือข่าย จึงมีแนวคิดในการเปิดพื้นที่
สร้างความสัมพันธ์ ความรัก ความสามัคคี และความสันติสุขในพื้นที่ โดยมีการนำกิจกรรม
ในภาคกลางคืนเป็นสื่อหลัก
รางวัลพระปกเกล้า’ 64