Page 4 - kpi21365
P. 4
องค์ประกอบความทันสมัยในการปฏิบัติงาน (คิดเป็นร้อยละ 80.10) และมีระดับการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติอยู่ใน
ระดับสูง จ านวน 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบความโปร่งใสปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ด้านการ
ป้องกันและด้านการปราบปราม) (คิดเป็นร้อยละ 79.82) องค์ประกอบกฎหมายกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง (คิดเป็น
ร้อยละ 79.19) องค์ประกอบบุคลากรภาครัฐ (คิดเป็นร้อยละ 79.03) องค์ประกอบสิทธิมนุษยชนและความเสมอ
ภาคในกระบวนการยุติธรรม (คิดเป็นร้อยละ 75.55) และองค์ประกอบขนาดขององค์กรและการมีส่วนร่วมของ
ภาคประชาชน (คิดเป็นร้อยละ 69.31) ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การ
ปฏิบัติขององค์กรภาครัฐตามยุทธศาสตร์ชาติที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการขององค์กร
ภาครัฐในประเทศไทย ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีประเภทกลุ่มกระทรวงต่างกันและกระทรวงต่างกัน มีการขับเคลื่อน
ยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติขององค์กรภาครัฐตามยุทธศาสตร์ชาติที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการ
บริหารจัดการขององค์กรภาครัฐโดยรวมไม่แตกต่างกัน
ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหาและอุปสรรคในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติขององค์กร
ภาครัฐตามยุทธศาสตร์ชาติที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการขององค์กรภาครัฐใน
ประเทศไทย ซึ่งได้จากการวิจัยเชิงปริมาณ มีประเด็นสภาพปัญหาและอุปสรรคที่ส าคัญที่มีค่าความถี่สูงที่สุด 3
ล าดับแรก ได้แก่ ปัญหาการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากร รองลงมาได้แก่ การที่หน่วยงานไม่ได้รับการจัดสรรบ
ประมาณเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบบริหาร และสุดท้ายได้แก่ การที่หน่วยงานไม่ได้รับการจัดสรรบประมาณเพื่อ
พัฒนาบุคลากร ส าหรับผลการวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคที่ได้จากการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่า ปัญหาส าคัญที่สุดที่
องค์กรภาครัฐยังคงต้องพัฒนาต่อไปคือการท างานแบบบูรณาการ รองลงมาคือ ขนาดภาครัฐที่เกิดจากการส่งเสริม
การกระจายอ านาจยังมีข้อจ ากัด การพัฒนาทักษะของบุคลากรภาครัฐด้านเทคโนโลยี ปัญหากำรทุจริตและ
ประพฤติมิชอบภำครัฐ และปัญหำควำมล่ำช้ำในกำรปรับปรุงกฎหมำย
ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะและแนวทางพัฒนาการปฏิบัติงานที่สอดคล้องและเป็นไปตามเป้าหมาย
ของยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการขององค์กรภาครัฐในประเทศไทย
โดยจากปัญหาอุปสรรคส าคัญ ๆ ของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติที่ได้จากการวิจัย เช่น ด้านการลดขนาด
องค์การ ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการกระจายอ านาจ ด้านการท างานแบบบูรณาการ และด้าน
บุคลากร คณะผู้วิจัยาจึงแบ่งข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ โดยแบ่ง
ออกเป็นระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้
ระยะสั้น
1. ด้ำนโครงสร้ำง หน่วยงำนภำครัฐที่เกี่ยวข้องควรมีกำรปรับบทบำทภำรกิจภำครัฐให้ภำคส่วน
อื่นมำรับด ำเนินกำรมำกขึ้นและต้องมีกำรปรับรูปแบบเน้นกำรท ำงำนในลักษณะของเครือข่ำย โครงสร้ำงองค์กร
และขนำดก ำลังคนให้มีควำมเหมำะสม (Right-sizing) โดยส่งเสริมให้ส่วนรำชกำรน ำ Digital Technology มำใช้
ในกำรปฏิบัติงำน พร้อมกับกำรทบทวนบทบำทภำรกิจของส่วนรำชกำรคู่ขนำนกันเพื่อให้โครงสร้ำงส่วนรำชกำรมี
ควำมกะทัดรัดคล่องตัว (Agile) และมีอัตรำก ำลังมีขนำดที่เหมำะสม (Right-sizing) กำรพัฒนำระบบกำรบริหำร
ข