Page 396 - kpi21190
P. 396
396
กล่าวโดยสรุปแล้ว การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้ได้นั้น ผู้คนในสังคมต้องมี ทางการเมืองแบบพลเมืองให้เกิดขึ้นกับประชาชน อันเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ จะเห็น
วัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่หรือวัฒนธรรมแบบพลเมือง นอกจากคุณสมบัติของพลเมือง ได้ว่าประชาชนมิได้มีวัฒนธรรมแบบพลเมืองที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลมาจาก
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ผู้คนที่มีวัฒนธรรมแบบพลเมืองยังต้องมีความคิดความเชื่อในเบื้องต้นว่า การกล่อมเกลาทางการเมืองโดยตัวแทน หรือสถาบันต่างๆ ดังนั้นจึงต้องมีองค์กรและสถาบัน
“การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมเป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่ต้องเอาใจใส่ และมีความ ต่างๆ ที่ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดวัฒนธรรมแบบพลเมืองให้กับผู้คน อันได้แก่ ครอบครัว ชุมชน
รับผิดชอบร่วมกันที่จะต้องเข้าไปดำเนินการ จะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธความรับผิดชอบของตน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน ฯลฯ พร้อมกับการสร้างจิตสำนึกแบบพลเมืองให้เกิดขึ้น เพื่อนำไป
หาได้ไม่” จะเห็นได้ว่าถึงที่สุดแล้ว การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้สำเร็จได้นั้น สู่การสร้างสังคมประชาธิปไตยที่มีความเสมอภาคและเท่าเทียม นั่นคือการแก้ไขปัญหาความ
ต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาให้ประชาชนมีจิตสำนึกของความเป็นพลเมืองเสียก่อน ทว่าจิตสำนึก เหลื่อมล้ำทางสังคมเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องเอาใจใส่ และมีความรับผิดชอบร่วมกันที่
ของความเป็นพลเมืองที่แท้จริงต้องสะท้อนออกมาในตัวคน ดังต่อไปนี้ จะเข้าไปดำเนินการ จะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธความรับผิดชอบของตนหาได้ไม่ การแก้ไขปัญหา
ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่อาจทำให้สำเร็จได้ด้วยอำนาจของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ความสำเร็จ
ประการแรก คือการมองสังคมอย่างที่ตนเป็นเจ้าของ มีความรู้สึกร้อนหนาวกับปัญหาของ เกิดจากความใฝ่ฝันร่วมกันด้วยพลังหรือแรงขับเคลื่อนของสังคม และการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ
สังคมและประเทศชาติที่เกิดขึ้น รวมถึงการมองเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมของประเทศ จะเกิดผลอย่างกว้างขวางมากขึ้น ต่อเมื่อพลเมืองได้รับการเสริมพลังอำนาจขึ้นมาเพื่อเข้าถึง
ชาติที่เกิดขึ้นว่า เป็นภัยร้ายแรงของประเทศชาติและเป็นปัญหาของตัวเราเองด้วยที่จะต้องเข้าไปมี ทรัพยากรต่างๆ ได้ในท้ายที่สุด
ส่วนร่วมแก้ไข
ประการที่สอง ต้องเชื่อว่าตนเองมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ให้เป็นไปใน
ทิศทางที่ดีขึ้นได้ และต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนา แก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปัญหาความ
29
เหลื่อมล้ำทางสังคมและปัญหาอื่นๆ ของประเทศชาติที่เกิดขึ้นเหล่านั้นอย่างจริงจัง ถ้าปฏิบัติได้
ตามนี้ก็จะมีพลังทางสังคมในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำได้
5. บทสรุป
ในบทความนี้ได้นำเสนอให้เห็นว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยมีความสัมพันธ์กับ
ประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพ หากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่
การเกิดความไม่พอใจ และเกิดแรงต้านจากประชาชน ในท้ายที่สุดอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง
ทางการเมืองขึ้นได้ ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยมีหลายมิติ เช่น มิติความเหลื่อมล้ำด้าน
การกระจายรายได้ ความเหลื่อมล้ำด้านทรัพย์สินทางการเงิน ความเหลื่อมล้ำด้านการถือครอง
ที่ดิน ความเหลื่อมด้านการศึกษาและการให้บริการสาธารณสุข เป็นต้น มิติของปัญหาเหล่านี้
ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีก
สาเหตุหลักของการเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำมาจากสองประการ คือ หนึ่ง เกิดจากปัญหา
เชิงโครงสร้างของสังคมไทย และสอง ปัญหาพื้นฐานทางด้านวัฒนธรรมทางการเมืองและ
บทความที่ผ่านการพิจารณา เหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น วัฒนธรรมทางการเมืองแบบอำนาจนิยม วัฒนธรรมทางการเมืองที่ผู้คน
พฤติกรรมของคนในสังคม โดยเฉพาะพื้นฐานวัฒนธรรมทางการเมืองที่ส่งผลให้เกิดความ
เฉื่อยชา ไม่สนใจกิจกรรมทางการเมืองและเรื่องประโยชน์สาธารณะ วัฒนธรรมแบบเจ้าขุน
มูลนาย มีการจัดลำดับฐานะสูงต่ำในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ยอมรับความไม่เท่าเทียมกัน
และไม่ชอบการรวมกลุ่มแก้ไขปัญหาด้วยกัน แนวทางแก้ไขปัญหาคือ การปลูกฝังวัฒนธรรม
29
พรอัมรินทร์ พรหมเกิด. (2557). “การพัฒนาประชาธิปไตยกับการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบ
ประชาธิปไตย” รัฐสภาสาร. 62,7 (กรกฎาคม).หน้า 9 - 44.