Page 360 - kpi21190
P. 360
360
2. ควรมีการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อแยกออกจาก แนวความคิดเห็นในการตีความกฎหมายและขั้นตอนการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
กันโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแยกออกจากกัน เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเต็มเปี่ยมตามหลักการ แบบบัญชีรายชื่อหลายกรณี อาจส่งทำให้เกิดอุปสรรคและความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นอันไม่
ประชาธิปไตย ได้เลือกผู้แทนเขตที่มีคุณภาพและเลือกพรรคที่มีนโยบายที่ดี ทำให้ที่นั่งพรรค สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่แท้จริง
กำหนดจากความนิยมที่ประชาชนมีต่อพรรคโดยตรงไม่ได้กำหนดจากความนิยมในตัวผู้สมัคร
ในแต่ละเขต และประชาชนได้สิทธิเลือกผู้แทนโดยตรงทั้งสองแบบคือเลือกพรรคที่ชอบ และ ผู้เขียนจึงขอเสนอแนะแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอนาคต กล่าวคือ ควรมีการ
เลือกตัวแทนเขตที่ใช่ หากมีการให้ประชาชนเลือก 2 ใบแยกกันประชาชนมีสิทธิใช้วิจารณญาณ กำหนดวิธีการในการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีความชัดเจนมากขึ้น รัฐควรมีการแก้ไข
เต็มที่ และผู้แทนที่ถูกเลือกก็สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนชัดเจน เพราะประชาชนได้เลือก บทบัญญัติเกี่ยวกับการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ตาม
โดยตรงทั้งในระบบเขตและระบบพรรค พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
มาตรา 128 ให้มีความสอดคล้องกับมาตรา 91 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
3. ในกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี พุทธศักราช 2560 โดยแก้ไขตัดคำว่า “เบื้องต้น” ในมาตรา 128 (2),(3) ตามพระราชบัญญัติ
รายชื่อว่างลง เช่น กรณีย้ายพรรคการเมืองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ กรณี ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และสิ่งสำคัญคือ
ตายหรือลาออกหรือการเลือกตั้งใหม่ของสมาชิกสภาผู้แทนแบบแบ่งเขต เพราะฉะนั้นหากการ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 91(4) และพระราชบัญญัติ
เลือกตั้งมีบัตรใบเดียวคะแนนไปผูกอยู่ที่เขตเลือกตั้งอาจจะเป็นปัญหา เพราะจะทำให้กระทบกับ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (5)
การคำนวณคะแนนและที่นั่งของทุกพรรคตามไปด้วย เพราะทุกอย่างผูกอยู่กับคะแนนเขตเลือกตั้ง ควรแก้ไขเพิ่มเติมว่า “...พรรคการเมืองใดที่ได้คะแนนเสียงน้อยกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ตัวแทนที่ได้รับตำแหน่งอาจจะสิ้ดสุดลงได้ทุกเมื่อ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวผู้เขียนจึงเห็นว่า ที่พรรคการเมืองนั้นพึงมีให้ถือว่าไม่มีผู้ใดในบัญชีได้รับการเลือกตั้ง และมิให้นำคะแนนเสียง
ควรกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรณีที่ว่างลงไว้ในพระราชบัญญัติ ดังกล่าวมารวมเพื่อคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร...” ควรมีการเลือกตั้ง
ประกอบรัฐธรรมนูญให้มีความชัดเจนและไม่กระทบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับแต่งตั้งแล้ว สมาชิกผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อแยกออกจากกันโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
ทั้งนี้เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับตำแหน่งแล้วได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ แยกออกจากกัน ควรกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรณีที่ว่างลงไว้ใน
อันแท้จริงของประชาชนต่อไป พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้มีความชัดเจนและไม่กระทบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่ได้รับแต่งตั้งแล้ว ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาในการตีความกฎหมายและทำให้ไม่มีสูตรในการคำนวณ
จากข้อเสนอแนะดังกล่าวหากรัฐได้มีการแก้ไขให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ก็จะทำให้ประเทศ หลายสูตรจนเกิดไปและทำให้เมืองเกิดความยืดเยื้อไม่สิ้นสุด นอกจากนี้ยังเป็นไปตามเจตนารมณ์
ไทยมีระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ทำให้การคำนวณการได้มาซึ่งตัวแทนของสมาชิกสภา ของรัฐธรรมนูญเหมือนเช่นรัฐธรรมนูญก่อนๆ ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพทางการเมืองและเป็น
ผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองได้รับความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีวิธีการที่ชัดเจน และ เอกภาพมากขึ้นและสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
ลดความเหลื่อมล้ำทางการเมืองจากรูปแบบการคำนวณที่ไม่มีความแน่นอนชัดเจนเพราะตัวแทน
ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง และที่สำคัญทำให้
พรรคการเมืองที่ทำหน้าที่บริหารประเทศสามารถบริหารประเทศเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและ
ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
สรุป
ปัญหาของการได้มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อนั้นเกิดจากกระบวนการ
บทความที่ผ่านการพิจารณา และขั้นตอนของการได้มาที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญที่มีความไม่แน่นอนชัดเจน เนื่องจากเกิดการ
ตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 91(4) และ
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
มาตรา 128 (5) บัญญัติว่า “,,,และให้นําจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
ทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
ต่ำกว่าจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ แต่ต้องไม่มีผลให้
พรรคการเมืองใดดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินจํานวนที่จะพึงมี,,,” ซึ่งทำให้เกิด