Page 343 - kpi21190
P. 343

343



 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ มาตรา 91 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   1.  การได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตาม
 พุทธศักราช 2560 ประกอบกับมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีวิธีการคำนวณที่นั่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า
 หนึ่งวิธี จะเห็นได้จากการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของ  การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ประชาชนถือว่า
 คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยได้คำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พบว่า   เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่สำคัญในการปกครองประเทศ โดยการแสดงเจตจำนงผ่านการเลือกตั้ง

 ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้มีพรรคการเมืองในสภาอย่างน้อย 27 พรรค และจะทำให้พรรคที่ได้  เลือกโดยเลือกผู้แทนของตนมาทำหน้าที่พัฒนาชาติบ้านเมือง ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ
 คะแนนไม่ถึงเกณฑ์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อประชาชนพึงมีได้ที่นั่ง ซึ่งมีทั้งสิ้น 11 พรรค 4  ได้มีการบัญญัติถึงหลักเกณฑ์การได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แตกต่างกัน โดยผู้เขียน
 ทำให้มีตัวแทนของพรรคการเมืองในสภาที่เป็นพรรคเล็กๆ เข้ามาเป็นตัวแทนในสภาเป็นจำนวน  จะกล่าวถึงการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญแห่ง
 มาก แม้คะแนนเสียงของตัวแทนของพรรคการเมืองที่ได้เข้ามานั้นจะไม่ถึงคะแนนเสียงของสมาชิก  ราชอาณาจักรไทยแต่ละฉบับที่สำคัญ ดังนี้
 สภาผู้แทนราษฎรพึงมีก็ตาม อย่างไรก็ตาม นักวิชาการหลายท่านได้ตีความวิธีการคำนวณสูตร
 ดังกล่าวแตกต่างกันออกไปหลากหลายความเห็น แล้ววิธีการคำนวณตามสูตรใดจะเป็นวิธีการ  1.1)   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540

 คำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแต่ละวิธี
 จะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอันส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองต่างๆ รวมไปถึงกระทบต่อเสถียรภาพ     นับตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
 ทางการเมือง      ประเทศไทยใช้ระบบการเลือกตั้งแบบผสมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นระบบ
                  การเลือกตั้งแบบคู่ขนานระหว่างการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบเป็นสัดส่วน การจัดสรรที่นั่ง
 ดังนั้น เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายในการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร   ของผู้สมัครในระบบเขตเลือกตั้งและระบบเป็นสัดส่วนจากบัญชีรายชื่อของพรรคเป็นอิสระจากกัน

 แบบบัญชีรายชื่อไม่มีความแน่นอนชัดเจนแล้ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ได้กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
 แบบบัญชีรายชื่อที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภา อันไม่สอดคล้องกับเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน  มาจากการเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนทั้งสิ้น 500 คน ได้แก่ สมาชิกสภา
 อันขัดต่อความเป็นประชาธิปไตย อีกทั้งอาจก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการเมือง กล่าวคือ ทำให้   ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
                                5
 พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเกินคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีกลับไม่มีที่นั่งในรัฐสภา   จำนวน 100 คน  โดยพรรคการเมืองจัดทำบัญชีรายชื่อพรรคละ 1 บัญชี และให้ถือประเทศไทย
 อันเกิดจากรูปแบบของการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อที่ไม่มีความ  เป็นเขตเลือกตั้งโดยผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องไม่เกินหนึ่งร้อยคน โดยบัญชีรายชื่อของแต่ละ
 ชัดเจน เมื่อมีตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเล็กพรรคน้อยรวมตัวกันจัดตั้งเป็น   พรรคการเมืองต้องมาจากผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่างๆ อย่างเป็นธรรม และต้องไม่ซ้ำกับ
 ฝ่ายรัฐบาลก็ทำให้รัฐบาลขาดความเป็นเอกภาพทางการเมือง การบริหารประเทศไม่คล่องตัว    รายชื่อในบัญชีที่พรรคการเมืองอื่นจัดทำขึ้นและไม่ซ้ำกับรายชื่อของผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบ

 มีการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลอาจสร้างปัญหาในการดำเนิน  แบ่งเขตเลือกตั้งโดยจัดทำรายชื่อเรียงตามลำดับหมายเลข 6
 นโยบายของภาครัฐและการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย อันส่งผลกระทบที่สำคัญที่จะ
 ทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยบทความนี้จะกล่าวถึงประเด็นสำคัญทาง     ในการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 นั้น
 กฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญแห่ง   กำหนดให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกตั้งโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่
 ราชอาณาจักรไทยแต่ละฉบับที่สำคัญ วิธีการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตาม  การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน เป็นการเลือกตั้งระบบเสียง
 รัฐธรรมนูญ 2560 ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพระราชบัญญัติประกอบ  ข้างมาก ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครได้ 1 คนต่อ 1 เขต โดยผู้ที่ได้
                                                 7
 รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 รวมไปถึงปัญหาการได้มาซึ่ง  คะแนนสูงสุดเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง  และการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2560 และข้อเสนอแนะ  มีจำนวน 100 คน โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง กล่าวคือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนน
 ทางกฎหมายถึงแนวทางที่ควรจะเป็นเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ  เสียงเลือกได้ 1 พรรคการเมือง โดยมีวิธีการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งจะได้พิจารณาเป็นลำดับ ดังนี้   เบื้องต้น โดยการกำหนดคะแนนขั้นต่ำในการกำหนดสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ


                     5   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 98                             บทความที่ผ่านการพิจารณา
                     6   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 99
 4   ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 61/2562 (ส.ส.6/3) เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  7   รังสรรค์ ธนะพรพันธ์. ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2475-2540.
 แบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2562   โครงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว., เศรษฐศาสตร์รัฐธรรมนูญ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย, หน้า 4
   338   339   340   341   342   343   344   345   346   347   348