Page 342 - kpi21190
P. 342
342
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ มาตรา 91 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 1. การได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตาม
พุทธศักราช 2560 ประกอบกับมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีวิธีการคำนวณที่นั่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า
หนึ่งวิธี จะเห็นได้จากการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ประชาชนถือว่า
คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยได้คำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พบว่า เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่สำคัญในการปกครองประเทศ โดยการแสดงเจตจำนงผ่านการเลือกตั้ง
ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้มีพรรคการเมืองในสภาอย่างน้อย 27 พรรค และจะทำให้พรรคที่ได้ เลือกโดยเลือกผู้แทนของตนมาทำหน้าที่พัฒนาชาติบ้านเมือง ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ
คะแนนไม่ถึงเกณฑ์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อประชาชนพึงมีได้ที่นั่ง ซึ่งมีทั้งสิ้น 11 พรรค 4 ได้มีการบัญญัติถึงหลักเกณฑ์การได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แตกต่างกัน โดยผู้เขียน
ทำให้มีตัวแทนของพรรคการเมืองในสภาที่เป็นพรรคเล็กๆ เข้ามาเป็นตัวแทนในสภาเป็นจำนวน จะกล่าวถึงการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญแห่ง
มาก แม้คะแนนเสียงของตัวแทนของพรรคการเมืองที่ได้เข้ามานั้นจะไม่ถึงคะแนนเสียงของสมาชิก ราชอาณาจักรไทยแต่ละฉบับที่สำคัญ ดังนี้
สภาผู้แทนราษฎรพึงมีก็ตาม อย่างไรก็ตาม นักวิชาการหลายท่านได้ตีความวิธีการคำนวณสูตร
ดังกล่าวแตกต่างกันออกไปหลากหลายความเห็น แล้ววิธีการคำนวณตามสูตรใดจะเป็นวิธีการ 1.1) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
คำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแต่ละวิธี
จะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอันส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองต่างๆ รวมไปถึงกระทบต่อเสถียรภาพ นับตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
ทางการเมือง ประเทศไทยใช้ระบบการเลือกตั้งแบบผสมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นระบบ
การเลือกตั้งแบบคู่ขนานระหว่างการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบเป็นสัดส่วน การจัดสรรที่นั่ง
ดังนั้น เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายในการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของผู้สมัครในระบบเขตเลือกตั้งและระบบเป็นสัดส่วนจากบัญชีรายชื่อของพรรคเป็นอิสระจากกัน
แบบบัญชีรายชื่อไม่มีความแน่นอนชัดเจนแล้ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ได้กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แบบบัญชีรายชื่อที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภา อันไม่สอดคล้องกับเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน มาจากการเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนทั้งสิ้น 500 คน ได้แก่ สมาชิกสภา
อันขัดต่อความเป็นประชาธิปไตย อีกทั้งอาจก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการเมือง กล่าวคือ ทำให้ ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
5
พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเกินคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีกลับไม่มีที่นั่งในรัฐสภา จำนวน 100 คน โดยพรรคการเมืองจัดทำบัญชีรายชื่อพรรคละ 1 บัญชี และให้ถือประเทศไทย
อันเกิดจากรูปแบบของการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อที่ไม่มีความ เป็นเขตเลือกตั้งโดยผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องไม่เกินหนึ่งร้อยคน โดยบัญชีรายชื่อของแต่ละ
ชัดเจน เมื่อมีตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเล็กพรรคน้อยรวมตัวกันจัดตั้งเป็น พรรคการเมืองต้องมาจากผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่างๆ อย่างเป็นธรรม และต้องไม่ซ้ำกับ
ฝ่ายรัฐบาลก็ทำให้รัฐบาลขาดความเป็นเอกภาพทางการเมือง การบริหารประเทศไม่คล่องตัว รายชื่อในบัญชีที่พรรคการเมืองอื่นจัดทำขึ้นและไม่ซ้ำกับรายชื่อของผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบ
มีการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลอาจสร้างปัญหาในการดำเนิน แบ่งเขตเลือกตั้งโดยจัดทำรายชื่อเรียงตามลำดับหมายเลข 6
นโยบายของภาครัฐและการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย อันส่งผลกระทบที่สำคัญที่จะ
ทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยบทความนี้จะกล่าวถึงประเด็นสำคัญทาง ในการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 นั้น
กฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญแห่ง กำหนดให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกตั้งโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่
ราชอาณาจักรไทยแต่ละฉบับที่สำคัญ วิธีการคำนวณการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตาม การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน เป็นการเลือกตั้งระบบเสียง
รัฐธรรมนูญ 2560 ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพระราชบัญญัติประกอบ ข้างมาก ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครได้ 1 คนต่อ 1 เขต โดยผู้ที่ได้
7
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 รวมไปถึงปัญหาการได้มาซึ่ง คะแนนสูงสุดเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง และการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
มีจำนวน 100 คน โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง กล่าวคือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนน
บทความที่ผ่านการพิจารณา ทางกฎหมายถึงแนวทางที่ควรจะเป็นเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เบื้องต้น โดยการกำหนดคะแนนขั้นต่ำในการกำหนดสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2560 และข้อเสนอแนะ
เสียงเลือกได้ 1 พรรคการเมือง โดยมีวิธีการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งจะได้พิจารณาเป็นลำดับ ดังนี้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 98
5
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 99
6
รังสรรค์ ธนะพรพันธ์. ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2475-2540.
7
4
ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 61/2562 (ส.ส.6/3) เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 โครงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว., เศรษฐศาสตร์รัฐธรรมนูญ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย, หน้า 4