Page 14 - kpi20899
P. 14
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
ที่สุดแล้วก็มักล้มเหลวในผลลัพธ์ (outcome) คือ ขาดประสิทธิภาพในการจัดการน้้าที่ดี มีความขัดแย้ง
ในด้านความต้องการปริมาณน้้า รวมถึงความขัดแย้งในด้านผลประโยชน์ที่ได้รับจากแหล่งน้้า และความ
ขัดแย้งในด้านคุณภาพน้้า ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุความล้มเหลวดังกล่าวพบว่า การจัดการทรัพยากรน้้า
ที่ผ่านมานั้น เป็นการก้าหนดจากบนลงล่างหรือมีการก้าหนดให้ด้าเนินการตามนโยบายของรัฐบาลหรือ
หน่วยงานจากส่วนกลางเป็นหลัก หรืออาจมาจากผู้มีอ้านาจทางการเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดว่า
เมื่อมีการก่อสร้างเขื่อน อ่างเก็บน้้า หรือระบบชลประทานแล้ว จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้้า
ปริมาณน้้าไม่เพียงพอต่อการเกษตรและด้ารงชีพได้ หรือแก้ปัญหาน้้าท่วมที่ชุมชนต้องเผชิญมาอย่างซ้้าซาก
การด้าเนินโครงการส่วนใหญ่จึงขาดกระบวนการมีส่วนร่วมตั้งแต่การเสนอปัญหา การคิดออกแบบ และ
วางแผนด้าเนินการ เมื่อโครงการเหล่านั้นเสร็จสิ้น จึงไม่ได้น้าไปสู่การแก้ปัญหาและสนองต่อความต้องการ
ของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง หลายโครงการยังก่อให้เกิดความขัดแย้งกับชุมชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
อันเนื่องมาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น และยังไม่มีค้าตอบแน่ชัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเยียวยาแก้ไข
ได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทบกับสิทธิของชุมชนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของทรัพยากรน้้าและ
ทรัพยากรต่างๆ (ปราโมทย์ ไม้กลัด, 2557)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พ.ศ.2560 มาตรา 258 ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการก้ากับและ
ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ความส้าคัญประการหนึ่งที่ได้บัญญัติให้มีการ
ปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความส้าคัญต่อการเปลี่ยนแปลง และพัฒนามุ่งไปสู่
ความสมดุลภายในสังคม โดยเฉพาะในการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้้า ซึ่งถือเป็นอีกประเด็น
หนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาให้ความส้าคัญและจ้าเป็นต้องมีการค้นแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้้า
อย่างเป็นระบบ ภายใต้การเข้ามามีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนตั้งแต่รัฐบาล ท้องถิ่น ชุมชน รวมถึงภาคเอกชน
เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากน้้าเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดและตอบสนองความต้องการการใช้น้้าอย่างทั่วถึง
และเพียงพอ (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560) จะเห็นได้ว่าการจัดการทรัพยากรน้้าเป็น
กระบวนการที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน ต้องมีองค์ความรู้ที่หลากหลาย อีกทั้งภูมิปัญญาอัน
เป็นความเข้าใจในพื้นที่และลักษณะภูมิอากาศ ที่สั่งสมเป็นความรู้ในตน (tacit knowledge) ของผู้คนใน
พื้นถิ่น เป็นเรื่องที่ต้องมีการรับฟัง เรียนรู้ และท้าความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งความส้าเร็จในกระบวนการ
บริหารจัดการน้้าดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้วอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา
จังหวัดราชบุรี
13