Page 330 - kpi20767
P. 330
305
1) ปัจจัยด้านผู้น า (X Beta = .30)
12
2) ปัจจัยด้านค่านิยม/วัฒนธรรม (X Beta = .20)
11
3) ปัจจัยด้านกลุ่มเป้าหมาย (X Beta = .24)
6
4) ปัจจัยการสื่อสารระหว่างหน่วยงาน (X Beta = .15)
2
5) ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายนอก (X Beta = .14)
7
โดยผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงหรือการผันแปรกับการ
ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก
ธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐที่ผ่านเกณฑ์ โดยรวม ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้น า (X Beta = 0.30) คือ
12
เมื่อมีการเปลี่ยนไป 1 หน่วย จะท าให้การด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและ
พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐ โดยรวม เปลี่ยนแปลงไป
0.30 หน่วยในทิศทางเดียวกัน รองลงมาคือ ปัจจัยด้านกลุ่มเป้าหมาย (X Beta = 24) โดยเมื่อปัจจัย
6
ด้านกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนไป 1 หน่วย จะท าให้การด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับ
สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐ โดยรวม
เปลี่ยนแปลงไป 0.24 หน่วย ในทิศทางเดียวกัน และสุดท้ายคือ ปัจจัยด้านค่านิยม/วัฒนธรรม (X
11
Beta = 0.20) โดยเมื่อปัจจัยด้านค่านิยม/วัฒนธรรมเปลี่ยนไป 1 หน่วย จะท าให้การด าเนินงานตาม
ยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลของ
องค์การภาครัฐ โดยรวม เปลี่ยนแปลงไป 0.20 หน่วยในทิศทางเดียวกัน
6.2 สรุปผลการวิจัยเชิงคุณภาพ
ในสรุปผลการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งเป็นการวิจัยโดยใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-
Structured Interview Form) จากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลส าคัญ (Key Informants) จ านวน 18 คน ได้มา
โดยใช้การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ทั้งนี้ สามารถสรุปผลการวิจัยเชิงคุณภาพ
ตามล าดับได้ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มผู้ให้ข้อมูลส าคัญ
ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มผู้ให้ข้อมูลส าคัญที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้ ประกอบด้วย
ผู้บริหารหรือผู้แทนจากหน่วยงานระดับกรมแห่งละ 3 คน จาก 6 กรม ได้แก่ กรมการท่องเที่ยว กรม
กิจการผู้สูงอายุ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมบังคับคดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรม
ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมจ านวนกลุ่มผู้ให้ข้อมูลส าคัญที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้จ านวนทั้งสิ้น 18
คน