Page 74 - kpi20542
P. 74
โดยเครือข่าย ดังที่ได้ระบุไว้ในวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานว่า “สังคมก้าวหน้า พัฒนาบริการ
ท้องถิ่น : “ทบทวน ท้าทาย” เพื่อการจัดบริการสาธารณะ
สืบสานวัฒนธรรม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง โครงสร้างพื้นฐานดี เน้นการมีส่วนร่วม
พันธกิจการพัฒนาท้องถิ่น” จากคำที่ขีดเส้นใต้นี้เองได้นำเทศบาลตำบลป่าแดดก้าวไปสู่
การพัฒนาที่เน้นการขับเคลื่อนงานโดยเครือข่าย ทั้งนี้ เทศบาลตำบลป่าแดดได้ให้ความสำคัญกับ
การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ถึงกับระบุไว้เป็น 1 ใน 6 พันธกิจที่เทศบาลฯ จะต้อง
ดำเนินไปให้ถึง คือ “พันธกิจที่ 6 การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานของทุกภาคส่วนในตำบลและ
องค์กรภายนอก” โดยเทศบาลตำบลป่าแดดจะมุ่งเน้นในการส่งเสริมให้บุคลากรในองค์กร
ประชาชนในชุมชน องค์กรภาครัฐ องค์กรภาคเอกชนภายในตำบลมีส่วนร่วมในการบูรณาการ
การปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาตำบลร่วมกัน และร่วมมือกับองค์กรภายนอกในการจัดทำโครงการ
กิจกรรมต่าง ๆ และสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้เทศบาลตำบลป่าแดดสามารถดำเนินโครงการได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและยั่งยืนก็คือ ความตั้งใจของนายกเทศมนตรีที่ให้ความสนใจและเน้นการดูแลรักษา
คุณภาพชีวิตของประชาชน และสภาพแวดล้อมในพื้นที่เป็นลำดับแรก ก่อนการพัฒนาระบบ
โครงสร้างพื้นฐาน
เทศบาลตำบลป่าแดดมีต้นทุนที่สำคัญในการดำเนินโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวตำบล
ป่าแดด คือ การมีโรงพยาบาลรัฐที่ดำเนินการเรื่องการดูแลคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ในพื้นที่ เช่น
“โรงพยาบาลบ้านวังสิงห์คำ” ซึ่งเป็นเครือข่ายที่สำคัญของเทศบาลฯ โดยแต่ก่อนนั้นโรงพยาบาล
กรณีศึกษา: ด้านคุณภาพชีวิต : เด็ก เยาวชน ผู้พิการ ผู้สูงอายุ
บ้านวังสิงห์คำเป็นเพียงสถานีอนามัยบ้านวังสิงห์คำ ก่อตั้งและเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ
พ.ศ. 2523 เป็นสถานที่แห่งแรกที่ให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านการสาธารณะสุขให้แก่
ประชาชนในชุมชน จึงมีความใกล้ชิดกับประชาชนเป็นอย่างมาก จนกระทั่ง พ.ศ. 2554 สถานี
อนามัยบ้านวังสิงห์คำได้ยกฐานะเป็น “โรงพยาบาลบ้านวังสิงห์คำ” ทำให้โรงพยาบาลฯ สามารถ
ใช้ศักยภาพในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลดูแลประชาชนได้อย่างเต็มที่
สำหรับการดูแลแม่และเด็กนั้น ประชาชนในพื้นที่มีทางเลือกในการใช้บริการโรงพยาบาล
ที่หลากหลาย เนื่องจากเทศบาลตำบลป่าแดดมีสถานที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองซึ่งมีโรงพยาบาล
มากมาย โดยประชาชนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกเอกชน และเข้ามาใช้บริการ
โรงพยาบาลบ้างวังสิงห์คำเฉพาะในกรณีการตรวจสุขภาพเด็กและการรับวัคซีนตามวัยของเด็ก
เท่านั้น ดังนั้น จึงทำให้โรงพยาบาลบ้านวังสิงห์คำต้องเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานจากเชิงรับ
เป็นเชิงรุกมากขึ้น
โดยโรงพยาบาลบ้านวังสิงห์คำเริ่มออกเยี่ยมบ้านของประชาชนพร้อมกับอาสาสมัคร
สาธารณสุขเพื่อเยี่ยมบ้านแม่หลังคลอดในชุมชน ซึ่งในกรณีการเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานของ
สถาบันพระปกเกล้า