Page 167 - kpi20440
P. 167

การประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า    167
                                                                                         ครั้งที่ 20 ประจำาปี 2561
                                                                               ประชาธิปไตยไทย: ก้าวย่างเพื่อการพัฒนา



                          ประการที่สอง การศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองของ Almond และ Verba เลือกประเทศที่มีความเป็น

                  ประชาธิปไตยคือ อังกฤษและอเมริกา และพบว่า มีวัฒนธรรมทางการเมืองพลเมือง ประเทศทั้งสองมีลักษณะที่
                  แตกต่างไปจากประเทศก�าลังพัฒนา ดังที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศทั้งสองนี้มีระบอบการปกครองในลักษณะ

                  “รัฐบาลที่มาจากความยินยอมพร้อมใจ” ดังนั้น พลเมืองในสังคมการเมืองเช่นนี้จึงมีทัศนคติและความโน้มเอียงไป
                  ในทิศทางของพลเมืองผู้ภักดีต่อระบบ (ที่มาจากความยินยอมพร้อมใจของพวกเขา) ตัวแบบเช่นนี้จึงไม่อนุญาตให้

                  ผู้คนแสดงออกทางการเมืองที่เกินไปกว่าความภักดีต่อกระบวนการทางการเมือง ดังนั้น ในระบอบเช่นนี้จึงมีพื้นที่
                  ให้มีการแข่งขันทางการเมืองได้น้อย ตัวแบบเช่นนี้จึงมีปัญหาในการอธิบายสังคมการเมืองในบริบทที่เปลี่ยนแปลง

                  ไปอย่างมาก ทั้งหลังอุตสาหกรรมในตะวันตกและสังคมการเมืองในโลกที่สาม (รวมทั้งสังคมการเมืองไทย)
                  ซึ่งเกิดพลเมืองผู้ตื่นรู้ กระตือรือร้นและใช้ช่องทางและกลไกการมีส่วนร่วมในลักษณะท้าทายต่อระบบการเมือง

                  และกระบวนการทางการเมือง ซึ่งโครงสร้างและสถาบันทางการเมือง กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมือง
                  ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อโลกชีวิตของผู้คน


                          ประการที่สาม วัฒนธรรมทางการเมืองอาจจะเป็นผลสะท้อนมาจากระบบการเมืองหรือระบอบการ

                          40
                  ปกครอง   หรือกล่าวอีกนัย เป็นการตั้งค�าถามกับสมมติฐานที่ว่า วัฒนธรรมทางการเมืองเป็นตัวแปรต้นโดยมี
                  ความเป็นประชาธิปไตยเป็นตัวแปรตาม ความสัมพันธ์เชิงเหตุคือ วัฒนธรรมทางการเมืองที่ไม่เอื้อน�ามาสู่ผลคือ

                  ความไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งนักวิชาการไทยได้รับแนวคิดมาจากงานของ Almond และ Verba น�ามาศึกษา
                  ในสังคมไทยตลอดมาโดยไม่ค่อยมีการตั้งค�าถามกันมากนัก


                          การศึกษาภายใต้แนวคิดวัฒนธรรมทางการเมืองมีความจ�าเป็นต้องมองวัฒนธรรมทางการเมือง

                  เป็นตัวแปรตามหรือผลที่เกิดมาจากความไม่พัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งจะท�าให้กระบวนการสร้างและจรรโลง
                  ประชาธิปไตยจ�าเป็นต้องขยายพื้นที่ ช่องทางและกลไกการมีส่วนร่วมทางการเมือง ขยายพื้นที่การจัดการชีวิต

                  สาธารณะกันเอง และการสร้างเงื่อนไข กลไก และพื้นที่การเมืองให้เข้ามาใกล้ชีวิตของผู้คน แทนที่จะศึกษา
                  หาสาเหตุจากปัญหากระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม และพิจารณาว่าสถาบันใดท�าหน้าที่บกพร่องในการท�า

                  หน้าที่ดังกล่าวและมักจะมีข้อเสนอแนะให้อบรมบ่มเพาะสถาบันดังกล่าวนี้ให้ท�าหน้าที่กล่อมเกลาทางสังคม
                  ที่ถูกทิศทางเพื่อสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบพลเมืองดังที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อ

                  การสร้างและจรรโลงประชาธิปไตยมากนัก


                          ประการสุดท้าย ข้อสรุปที่ว่า พลเมืองเข้มแข็งเป็นเหตุปัจจัย หรือเงื่อนไขส�าคัญที่หนุนเสริมหรือเป็น
                  ผลให้เกิดประชาธิปไตยมั่นคง เข้มแข็ง แม้ดูเหมือนจะเป็นที่ยอมรับร่วมกันอย่างกว้างขวาง แต่พิจารณาให้ถี่ถ้วน
                  ลงไปก็จะพบว่า ข้อสรุปดังกล่าวนี้ยังมีประเด็นที่ถกเถียงกันได้อีกหลายประการ ข้อถกเถียงที่ส�าคัญประการหนึ่ง

                  ซึ่งได้หยิบยกมาพิจารณาในบทความนี้ก็คือ พลเมืองเข้มแข็งเป็นผลจากความเป็นประชาธิปไตยของสังคมการเมือง

                  นั้นที่ต้องสร้างขึ้นมาก่อน และประเด็นดังกล่าวนี้อาจจะเป็นความผิดพลาดส�าคัญของนักปฏิรูปการเมืองและ
                  สังคมที่ด�าเนินกันอยู่ในปัจจุบันก็เป็นได้





                  40   พฤทธิสาณ ชุมพล, ,ม.ร.ว., เพิ่งอ้าง, น. 23
   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172