Page 30 - kpi20350
P. 30
29
5. ส่งเสริมพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบและการพัฒนาที่เคารพทุกรูปแบบของ
ชีวิตและรักษาสมดุลของธรรมชาติบนโลก
6. อุทิศตนในการพัฒนาชุมชนของตนเอง ด้วยการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของผู้หญิงและ
เคารพหลักการประชาธิปไตย เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นร่วมกัน
แนวทางในการสร้างสันติวัฒนธรรม BOULDING (2000) เน้นแนวทางในการสร้างสันติ
วัฒนธรรม ด้วยการยอมรับความแตกต่างและจัดการกับความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ และการฟัง เพื่อเข้าใจ
เรียนรู้วัฒนธรรมของคนอื่น ผู้เขียนให้ความส าคัญกับสตรีเนื่องจากประสบการณ์เชิงประจักษ์ที่ผ่านมาสตรี
มักจะมีบทบาทส าคัญในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ให้ความส าคัญกับการสานเสวนาไม่ใช่การเน้นใช้อ านาจ
เหนือผู้อื่น สนับสนุนและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับงานด้านการสร้างสันติภาพ ไม่ว่าจะเป็นการไกล่เกลี่ย การ
แก้ไขความขัดแย้งเริ่มต้นตั้งแต่ในระดับเด็กอนุบาล
2.2 ทฤษฎีความขัดแย้งรุนแรง
ความขัดแย้งขึ้นไม่จ าเป็นต้องน าไปสู่ความรุนแรง ความรุนแรงมิใช่ผลของความขัดแย้ง แต่เป็น
วิธีที่มนุษย์เลือกใช้ กล่าวคือจะเลือกใช้วิธีการเจรจา พูดคุยหรือวิธีที่ใช้ความรุนแรง การเลือกใช้วิธีความรุนแรง
ก็เป็นเพียงวิธีการแก้ไขความขัดแย้งวิธีหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจคือเมื่อเกิดความขัดแย้งแล้วเรามีวิธีการจัดการ
อย่างไร เรามีวิธีการควบคุมอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัวจนกลายเป็นความรุนแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึง
ปรารถนาของทุกสังคม ค าถามที่น่าสนใจคือท าไมเมื่อเกิดความขัดแย้งเราจึงใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
หรือมนุษย์ใช้อะไรเป็นข้ออ้างรองรับในการใช้ความรุนแรงในการจัดการปัญหา
ความรุนแรงประกอบด้วย 1) ความรุนแรงทางตรง (Direct Violence) เป็นความรุนแรง
ที่มีผลในเชิงการท าร้ายร่างกายและมีผู้กระท าความรุนแรง บางครั้งเรียกความรุนแรงชนิดนี้ว่าเป็นความ
รุนแรงส่วนบุคคล ผลของความรุนแรงเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน เช่น รอยแผลกระสุนปืน 2) ความรุนแรงเชิง
โครงสร้าง (Structural Violence) คือสภาวะความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างสังคม หรือสถาบันทาง
สังคมที่ท าร้ายประชาชนอย่างช้า ๆ โดยการกีดกันพวกเขาจากการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการด ารงชีพ เช่น
โครงสร้างที่รวมศูนย์อ านาจจัดการทรัพยากร ที่รัฐท าให้ประชาชนเข้าไม่ถึงทรัพยากรเพื่อการด ารงชีพ หรือ
โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่ท าให้ประชาชนเข้าไม่ถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อการยังชีพได้ ฯลฯ 3 ) ความ
รุนแรงเชิงวัฒนธรรม เป็นการรองรับความรุนแรงทางตรง และโครงสร้างให้ด ารงอยู่ได้โดยชอบธรรม หรือถูก
มองว่าเป็นสภาวะปกติ ที่คนไม่ตั้งค าถามหรือสังสัยว่าวิธีคิด การกระท าและผลที่เกิดขึ้นต่อผู้คนที่เป็นเหยื่อนั้น
เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ความรุนแรงจะเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นอีกมาก ถ้าเรายึดติดมายาแห่งเอกลักษณ์ ซึ่งใช้ในการ
อธิบายตัวตนของเรา เช่น สีผิว ศาสนา วัฒนธรรม เพื่อน าไปกีดกันและท าลายคนอื่น เป็นการง่ายมากที่
ความรุนแรงจะเกิดขึ้น ถ้ามีการปลูกฝังให้เกิดการเกลียดชังระหว่างสีผิว หรือคนต่างศาสนา เช่น คนผิวขาว
กับคนผิวด า ศาสนาพุทธ กับมุสลิมหรือคริสต์ ถ้าคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าตนเหนือกว่าหรือถูกต้องกว่าคนอื่น
โอกาสที่จะเกิดความรุนแรงก็ยิ่งง่ายดายขึ้น (ชัยวัฒน์ สถาอานันท์, 2553)
