Page 359 - kpi19903
P. 359
322
อาจจะวิเคราะห์ตัวแบบลดหลั่นเชิงชั้นเชิงเส้นแบบวางนัยทั่วไปได้ เนื่องจากขนาดตัวอย่างของข้อมูลการส ารวจ
ระดับบุคคลทั้งประเทศมีเพียง 1500 ตัวอย่างแต่มีเขตเลือกตั้งเกือบ 400 เขตเลือกตั้งท าให้มีขนาดตัวอย่างที่ไม่
เพียงพอจะวิเคราะห์ในระดับเขตเลือกตั้งแต่อย่างใด ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาตัวแบบลดหลั่นเชิงชั้นเชิงเส้นส าหรับ
ข้อมูลที่มีระดับซ้อนกันและสามารถจะดูแลสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ทั้งข้อมูลระดับที่หนึ่งและข้อมูลระดับที่สองด้วย
พร้อมกันไป (Dong & Harris, 2015; Dong, Ma, Harris, & Pryce, 2016) ซึ่งในอนาคตหากมีข้อมูลเพียงพอก็จะ
สามารถวิเคราะห์ด้วยตัวแบบที่มีอันตรกิริยาระหว่างระดับในการวิเคราะห์ได้ ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพรวมของ
ปรากฏการณ์การเลือกตั้งได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นและน่าจะช่วยตอบค าถามความย้อนแย้งในผลการวิเคราะห์ระดับ
บุคคลและระดับเขตเลือกตั้งซึ่งในประเทศไทยพบว่าเพศและศาสนาอิสลามเป็นตัวแปรที่มีความย้อนแย้งดังกล่าว
ประการที่สาม การศึกษานี้แม้จะใช้ข้อมูลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของไทยในปี 2554 แต่ก็ผ่านมาแล้วเกือบ
8 ปี ท าให้เหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ภายในประเทศเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น มีการชุมนุมทางการเมืองใหญ่
หลายครั้ง มีรัฐประหาร และอื่นๆ อีกมาก หากมีการส ารวจประชามติและความคิดเห็นสาธารณะก่อนการเลือกตั้ง
ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และน าข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุงและพัฒนาตัวแบบที่ได้จากการศึกษานี้น่าจะช่วยให้ตัวแบบ
ที่สร้างขึ้นใหม่ภายใต้สถานการณ์ที่ใกล้ปัจจุบันมากขึ้นท านายพฤติกรรมและผลการเลือกตั้งได้ดีมากกว่าผล
การศึกษานี้
ประการที่สี่ ตัวแปรที่น่าสนใจที่ควรจะถูกพิจารณาด้วยคือตัวแปรจิตวิทยา เช่น ความรู้สึกเบื่อหน่ายการ
เลือกตั้ง/การเมือง ความเป็นอนุรักษ์นิยม/เสรีนิยม ปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เป็นต้น ซึ่ง
ตัวแปรเหล่านี้อาจจะช่วยในการท านายผลการเลือกตั้งให้มีความแม่นย าขึ้น
ประการที่ห้า การท านายผลการเลือกตั้งของพรรคการเมืองขนาดกลางเช่นพรรคภูมิใจไทยและ
พรรคชาติไทยพัฒนาควรน าตัวแปรความใกล้ชิดหรือความเป็นคนท้องถิ่นของผู้สมัครมาพิจารณาด้วยเนื่องจากมี
ความเป็นพรรคท้องถิ่นในพื้นที่เฉพาะของกลุ่มตนแคบๆ เท่านั้น
ประการที่หก ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ภายใต้การปกครองโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยพลเอก
ประยุทธ์ จันโอชา และมีทั้งกลุ่มคนที่ชื่นชอบและไม่ชื่นชอบในตัวบุคคลหรือคสช การศึกษาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
นี้จึงมีความน่าสนใจอย่างยิ่งในแง่ของพฤติกรรมการเลือกตั้งของคนไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไร ปฏิสัมพันธ์เชิงพื้นที่
ยังคงมีผลต่อการเลือกตั้งอยู่หรือไม่ พรรคการเมืองในประเทศไทยจะยังคงเป็นการแข่งขันระหว่างสองพรรค
การเมืองใหญ่แบบที่ผ่านมาหรือจะมีพรรคการเมืองหรือคณะบุคคลใดที่จะได้รับการเลือกตั้ง ภายหลังจากที่
ประเทศไทยไม่ได้ถูกปกครองโดยฝ่ายบริหารที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเวลานาน คนไทยจะสนับสนุนพรรคการเมือง
ที่สนับสนุนให้คสช สืบทอดอ านาจหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ล้วนเป็นค าถามที่น่าสนใจหาค าตอบเป็นอย่างยิ่ง
ประการที่เจ็ด ดังที่ได้ปรากฏในการศึกษานี้แล้วว่าผลการเลือกตั้งไม่ได้เป็นอิสระกันทางพื้นที่ ดังนั้น
การศึกษาการเลือกตั้งครั้งต่อไปจึงไม่ควรละเลยความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด