Page 113 - kpi19903
P. 113
86
หน้าที่รับผิดชอบโดยการไปลงคะแนนให้ผู้สมัครจากพรรคอื่น ผู้ลงคะแนนเลือกตั้งสามารถประเมินโดยการมอง
ย้อนกลับไปในอดีต ผลงานที่ผ่านมาและผลการด าเนินนโยบายสาธารณะ (Fiorina, 1978, 1981; Key, 1966)
หรือมองไปข้างหน้าจากแนวโน้มของการเติบโตหลังการเลือกตั้ง (Alesina, Londregan, & Rosenthal,
1993)
งานวิจัยเกี่ยวกับการชุมนุมขับไล่ทางการเมืองพบว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจจะกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง เพราะต้องการจะให้รัฐบาลรับผิดชอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่แย่ โดยการท าให้พ้น
ไปจากอ านาจรัฐ (Rosenstone, 1982) ในภาพรวมประเทศที่มีสภาวะเศรษฐกิจที่แย่หรือเติบโตต่ าจะมีอัตรา
การไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสูง หากเศรษฐกิจดีก็จะมีอัตราการไปลงคะแนนเสียงต่ า (Koch, 2007)
นอกจากนี้ในประเทศไทยประชาชนในสังคมเมือง เช่น ในเขตเทศบาลหรือในเขตกรุงเทพมหานครไป
ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งน้อยกว่าประชาชนในสังคมชนบทและในต่างจังหวัดอย่างชัดเจน (ส านักงาน
คณะกรรมการการเลือกตั้ง, 2556) ทั้งนี้ประชาชนในเขตเมืองมักจะมีระดับการศึกษาและระดับรายได้ที่สูงกว่า
ในเขตชนบท การมีภาระหน้าที่การงาน การท ามาค้าขาย อาจจะเป็นเหตุหนึ่งที่ท าให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่
สะดวกเท่าประชาชนในเขตชนบทเนื่องจากต้องท างาน เพื่อหารายได้ ดังนั้นจึงตั้งสมมุติฐานว่า
H7 : ระดับรายได้ของครัวเรือนสัมพันธ์ทางลบกับความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
H8 : สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของครอบครัวสัมพันธ์ทางลบกับความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ผลจากการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องท าให้ได้กรอบแนวคิดงานวิจัยปัจจัยสัมพันธ์กับ
ความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งดังรูปที่ 6.2 ดังนี้
รูปที่ 6.2 กรอบแนวคิดงานวิจัยปัจจัยสัมพันธ์กับความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง