Page 5 - kpi18358
P. 5
บทสรุปผู้บริหาร
โครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาระบบตรวจราชการ ระยะที่ 1
โครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาระบบตรวจราชการ ระยะที่ 1 โดยสถาบันพระปกเกล้าด าเนิน
การศึกษาให้กับส านักงานปลัดส านักนายกรัมนนตรี นีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาวิเคราะห์และประเนินผล
ระบบการตรวจราชการในช่วงระหว่าง พ.ศ.2551- ปัจจุบัน 2) เพื่อศึกษาวิเคราะห์บริบทหรือควานท้าทาย
ส าคัญที่นีผลต่อระบบบริหารราชการแผ่นดินและระบบการตรวจราชการ 3) เพื่อน าเสนอแนวทางการพัฒนา
และปรับปรุงระบบการตรวจราชการให้นีประสิทธิภาพสูงขึ้น และน าไปสู่ระบบการตรวจราชการยุคใหน่
กรอบแนวคิดส าคัญที่เป็นพื้นมานของการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ประชารัม การบริหารจัดการเชิงพื้นที่
การบริหารจัดการภาครัมแนวใหน่ ธรรนาภิบาล รัมบาลอิเล็กทรอนิกส์ และการบริหารควานเสี่ยง ตลอดจน
ระบบการตรวจราชการในต่างประเทศ อาทิ การตรวจราชการประเทศอังกฤษและสหรัมอเนริกา และ
ตัวอย่างที่โดดเด่นจากประเทศฝรั่งเศสและประเทศญี่ปุ่ น จากแนวคิดและระบบการตรวจราชการของ
ต่างประเทศท าให้คณะผู้วิจัยได้ค้นพบควานท้าทายที่จะส่งผลต่อระบบการตรวจราชการแบบบูรณาการใน
ประเทศไทย 5 ประการ ได้แก่ 1) การตรวจราชการที่สอดคล้องกับหลักการบริหารเชิงพื้นที่ (Area base
management) 2) ระบบการตรวจราชการที่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ (Technology and Information) 3)
การตรวจราชการเพื่อควานสอดคล้องตานหลักธรรนาภิบาล (Good Governance) 4) ระบบการตรวจราชการ
ที่เชื่อนโยงและบูรณาการ (Integration) และ 5) การตรวจราชการที่นีบทบาทในเชิงป้ องกัน (Risk reduction)
ควานคาดหวังจากผู้นีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับระบบการตรวจราชการแบบบูรณาการ นีตั้งแต่ฝ่าย
นโยบายที่เป็นผู้นีส่วนได้เสียหลักเพราะเป็นผู้ใช้กลไกการตรวจราชการเพื่อตรวจติดตานและสะท้อนผลการ
ด าเนินนโยบาย หน่วยรับตรวจที่จะต้องเป็นผู้รับการประเนินและติดตานการท างานซึ่งอาจสะท้อนปัญหา
และควานต้องการเพื่อให้ระบบการตรวจราชการเป็นสื่อกลางในการน าปัญหาไปสู่การแก้ไขได้อย่างทัน
การณ์ และภาคประชาชนที่เป็นผู้นีส่วนได้เสียที่ได้รับประโยชน์ขั้นท้ายที่สุดจากระบบการตรวจราชการ ท า
ให้ระบบการตรวจราชการแบบบูรณาการควรแสดงบทบาทที่คาดหวังออกนาใน 4 บทบาท ได้แก่ 1) การ
ติดตานและประเนินผล (Monitoring and Evaluation) 2) การตรวจสอบ (Auditing) 3) การให้ค าปรึกษา
แนะน า และเสนอแนวทางการป้ องกันและแก้ไขปัญหา (Consulting and Mentoring) และ 4) การริเริ่น
นโยบายใหน่ (Initiating new policy)
iii