Page 372 - kpi17968
P. 372
361
สาระสำคัญของมาตรานี้จึงขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ หลักนิติธรรม
และขัดต่อพันธกรณีด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะนำมาซึ่งขาดการตรวจสอบถ่วงดุล
การใช้อำนาจรัฐ ขาดการตรวจสอบใดๆ จากฝ่ายตุลาการ และอาจก่อให้เกิดการ
ใช้อำนาจโดยอำเภอใจ และส่งผลประชาชนขาดหลักประกันต่อสิทธิเสรีภาพอย่าง
ร้ายแรงยิ่งไปกว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึก
หลักนิติธรรมจะเกิดขึ้นในสังคมได้นั้น บริบททางสังคมต้องมีความชอบ
ธรรม เช่น การมีกฎหมายที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ การตัดสินของศาลที่มี
มาตรฐานของความยุติธรรม กระบวนการใช้อำนาจขององค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐต้องมี
การตรวจสอบถ่วงดุลได้ แต่ในหลายกรณีของทศวรรษแห่งความขัดแย้งในสังคม
ไทยกลับมีภาพสะท้อนความอ่อนแอของหลักนิติธรรมอย่างเห็นได้ชัด เช่น การมี
กลไกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาเป็นศาลเดียวจนขาดการตรวจสอบภายในจาก
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยต่อมาตรา 68 ของ
รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นการก้าวล่วงอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภา เป็นต้น
ปรากฏการณ์เหล่านี้จะส่งผลให้สังคมเกิดคำถามและข้อวิพากษ์วิจารณ์
ต่อความชอบธรรมขององค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐต่างๆ หากยังไม่ได้รับการจัดวาง
ความสัมพันธ์เชิงอำนาจและบทบาทที่ถูกต้องในสังคมประชาธิปไตย ภายใต้
หลักนิติธรรมซึ่งมีรัฐธรรมนูญเป็นกติกาและกลไกสำคัญทางสังคมในการจัดวาง
ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ
ฝ่ายตุลาการ รวมทั้งการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐจากภาคประชาสังคม
ความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมของประเทศ
ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความไม่ไว้วางใจและความรู้สึกที่เป็นปรปักษ์
ต่อกัน การขาดความเชื่อมั่นในหลักนิติธรรมที่เกิดขึ้นมิใช่เฉพาะความไม่ไว้วางใจ
ต่อองค์กรใดองค์กรหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม หรือประสิทธิภาพในการบังคับใช้
กฎหมายเท่านั้น แต่เป็นความไม่ไว้วางใจต่อระบบการเมืองและกระบวนการ
ยุติธรรมโดยรวมทั้งระบบอันสืบเนื่องมาจากความขัดแย้ง
การประชุมกลุมยอยที่ 3