Page 285 - kpi17968
P. 285
274
ประชาชนมิให้ถูกละเมิดโดยผู้กุมอำนาจรัฐ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจฝ่ายบริหาร
นิติบัญญัติ หรือตุลาการ ซึ่งการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองดังกล่าวนี้อาจ
ทำได้ด้วยการใช้ความรู้ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เป็นเครื่องมือเพื่อสร้าง
ศักยภาพในการคิดและการถกเถียงแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง รวมทั้ง
การค้นหาและสร้างความเห็นพ้องต้องกันในระบบคุณค่าใหม่ๆ ที่เอื้อต่อการยึด
หลักนิติธรรมในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจเรื่องต่างๆ บนฐานของความรู้
และพร้อมที่จะแสวงหาวิธีคิดหรือมุมมองใหม่ๆ เพื่อเข้าใจความซับซ้อนของ
ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สามารถกำกับดูแลกระบวนการตรา
กฎหมายและใช้กฎหมายให้ดำเนินไปโดยไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
แต่ให้เกิดกฎหมายและกระบวนการใช้กฎหมายที่มีความทันสมัยมากพอที่จะ
อำนวยความยุติธรรมและความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนในยุคโลกาภิวัตน์
นอกจากนี้ระบบการศึกษาควรเสริมสร้างวัฒนธรรมทางความคิดที่ผู้คนมอง
ตนเองในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม หรือเป็นปัจเจกชนที่มีจิตสาธารณะและ
เป็นพลเมืองที่กระตือรือร้น (active citizen) โดยมีความเข้าใจในสายสัมพันธ์
อันสลับซับซ้อนของคนจากทุกภาคส่วนที่เผชิญชะตากรรมร่วมกัน เช่น ถ้าหาก
ชาวบ้านมีรายได้น้อย นายทุนก็ขายสินค้าได้น้อย โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจโลก
ประสบปัญหา นายทุนก็จำเป็นต้องทำให้ตลาดภายในเข้มแข็งขึ้น ปัญหาอื่นๆ เช่น
สิ่งแวดล้อม การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ ล้วนแต่เป็นความทุกข์ร่วมของคนใน
สังคม แม้แต่สุขภาพจิตที่เป็นปัญหาจากความตึงเครียดในชีวิตก็อาจนำไปสู่การ
ทำร้ายผู้คนในสังคมได้ ดังนั้นจึงควรร่วมกันสร้างสรรค์สังคมโดยอาศัยวัฒนธรรม
การเมืองแบบประชาธิปไตยที่ดึงคนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งการสร้างกลุ่มระดับต่างๆ
ที่ดึงดูดคนเข้ามาร่วมมือกันแทนการปล่อยให้ผู้คนสัมพันธ์กันในฐานะปัจเจกชน
แท้ๆ จะช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมโดยเคารพในสิทธิ
และเสรีภาพของซึ่งกันและกัน เกิดการถ่วงดุลและตรวจสอบหรือการวิพากษ์
วิจารณ์กันฉันมิตรที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกัน และลดโอกาสที่จะ
เกิดอำนาจเผด็จการที่จะใช้อำนาจรัฐโดยขัดแย้งกับหลักนิติธรรม
อนึ่ง เนื่องจากความชอบธรรมทางการเมืองควรวางอยู่บนหลักการ
ประชาธิปไตยมากกว่าศีลธรรม เพราะคนมักมีทัศนะเรื่องศีลธรรมไม่ตรงกัน
การประชุมกลุมยอยที่ 2