Page 473 - kpi17073
P. 473

472     การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16


                       การชุมนุมเรียกร้องหลายครั้งมีการเดินขบวนด้วย ภาครัฐย่อมมีหน้าที่ในการดูแลควบคุม
                  การชุมนุมให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ปราศจากความรุนแรง แต่บางครั้งภาครัฐใช้ความรุนแรง

                  ต่อผู้ชุมนุมโดยการสลายการชุมนุมด้วยเหตุผลในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่เพียงส่งผล
                  กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองภายในประเทศเท่านั้น แต่ขยายวงกว้างสัมพันธ์กับต่าง
                  ประเทศด้วย ต่างประเทศเองก็เฝ้ามองเราอยู่ในการเข้ามาแทรกแซงเศรษฐกิจรวมถึงการลงทุน

                  ในประเทศไทย ด้วยข้ออ้างในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ที่สำคัญการใช้ความรุนแรงต่อ
                  ผู้ชุมนุม เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและรัฐธรรมนูญที่รับรองสิทธิดังกล่าวไว้

                  และยากที่จะทำให้ปัญหาที่แท้จริงได้รับการแก้ไข แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่าถ้าไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม
                  รัฐก็จะถูกต่อว่าละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และละเลยต่อผลประโยชน์ส่วนรวม


                       การจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมโดยรัฐ จะต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป
                  จนกระทั่งประชาชนไม่สามารถใช้เสรีภาพในการชุมนุมได้ กล่าวคือต้องสามารถชุมนุมได้เป็นหลัก

                  ไม่สามารถชุมนุมได้เป็นข้อยกเว้น และต้องสามารถให้ศาลเป็นผู้ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในการ
                  ห้ามการชุมนุมเป็นต้น ที่ผ่านมาสังคมไทยมีการชุมนุมสาธารณะเป็นจำนวนมาก รวมถึงการ
                  ชุมนุมประท้วงทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป

                  กระทบต่อทั้งสภาพเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นอกจากนั้นผู้ชุมนุมประท้วงก็ได้รับผลกระทบ
                  ทั้งการเสียชีวิต บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ได้รับผลกระทบถึงขั้นเสียชีวิต

                  และบาดเจ็บเช่นกัน โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีกฎหมายที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อจัดการอำนวย
                  ความสะดวกและควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้อย่างเหมาะสม แต่ต้องใช้กฎหมายอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหา
                  เฉพาะหน้า เช่น กฎหมายรักษาความสะอาด กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เครื่องขยายเสียง กฎหมาย

                  ทางหลวง เป็นต้น ซึ่งกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับการชุมนุมสาธารณะได้อย่าง
                  มีประสิทธิภาพ


                       โจทย์สำคัญคือเราจะหาจุดสมดุลย์ร่วมกันได้อย่างไรระหว่างเสรีภาพในการชุมโดยสงบและ
                  ปราศจากอาวุธ กับการควบคุมการชุมนุมไม่ให้กระทบสิทธิของผู้อื่นและต่อประโยชน์สาธารณะ

                  หากเราเน้นไปที่เสรีภาพในการชุมนุมก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง แต่หาก
                  เราเน้นไปที่ควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในกรอบของความสงบเรียบร้อย เสรีภาพในการชุมนุมก็อาจไม่

                  สามารถเกิดขึ้นได้จริง จากที่กล่าวมา เราควรจะหาแนวทาง กติการ่วมกันที่เป็นที่ยอมรับของฝ่าย
                  ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำให้การชุมนุมสาธารณะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายต่อไป



                  2. หลักการชุมนุมสาธารณะ และกรณีเปรียบเทียบประเทศต่างๆ



                   ลักการ   น  สา าร ะ

        การประชุมกลุ่มย่อยที่ 5   ซึ่งประเทศประชาธิปไตยให้การยอมรับเสรีภาพนี้ไว้ การชุมนุมโดยสงบและสันติเป็นเสรีภาพที่ได้
                       เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเป็นเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง


                  รับการรับรองไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (Universal Declaration
                  of Human Rights) รวมถึง กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
   468   469   470   471   472   473   474   475   476   477   478