Page 281 - kpi16607
P. 281
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
“ในการโฆษณาไม่ว่าด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือซึ่งคำพิพากษาหรือคำสั่ง
ของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวห้ามมิให้ระบุชื่อ หรือ
แสดงข้อความหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันจะทำให้รู้จักตัวเด็กหรือ
เยาวชนซึ่งเป็นจำเลย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล” (มาตรา 98)
ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ(มาตรา 131)
ต่อมามีการตรา พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดี
เยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 ขึ้นมาบังคับใช้แทน (ประกาศในราชกิจจา-
นุเบกษา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553) และมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่
22 พฤษภาคม 2554) โดยมีปรับปรุง เนื้อหาให้ความคุ้มครองสิทธิสวัสดิภาพ
และวิธีปฏิบัติต่อเด็ก เยาวชน สตรีและบุคคลในครอบครัว รวมทั้งกระบวนการ
พิจารณาคดีของศาลเยาวชนและครอบครัว เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี
2 3
ในทุกรูปแบบ
ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน
มีการขยายขอบเขตการคุ้มครองจากเดิมที่จำกัดเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ตกเป็น
จำเลยในศาล เป็นเด็กและเยาวชนที่เป็นตกผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวนและ
พนักงานอัยการด้วย
นอกจากนั้นยังเพิ่มบทลงโทษแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนในการเผยแพร่ข่าวและภาพของ
เด็กและเยาวชน รวมถึงครอบครัวที่เป็นคู่ความในศาลจากจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
เป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา
192) โดยมีบทบัญญัติสำคัญที่เกี่ยวข้อง อาทิ
มาตรา 76 เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำ
ความผิด ห้ามมิให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมเด็กหรือเยาวชน หรือพนักงานสอบสวน
จัดให้มีหรืออนุญาตให้มีหรือยินยอมให้มีการถ่ายภาพหรือบันทึกภาพเด็กหรือ
เยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการสอบสวน
สถาบันพระปกเกล้า