Page 277 - kpi16607
P. 277
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ผู้ต้องหา ฯลฯ โดยมิได้คำนึงถึงระเบียบปฏิบัติอันอาจก่อให้เกิดความเสียหาย
ต่อรูปคดี เป็นเหตุให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า
เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม...”
บันทึกดังกล่าวของอธิบดีกรมตำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ทั้งพนักงานสอบสวน
และสื่อมวลชนมิได้ตระหนักถึงหลักสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เลย
ทั้ง ๆ ที่กรมตำรวจได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วหลายฉบับ ได้แก่
1. หนังสือ ตร. ที่ 0610.3/7632 ลงวันที่ 27 พ.ค. 2528 เรื่อง กำชับ
วิธีการชี้ตัวผู้ต้องหา
2. หนังสือ ตร. ที่ 0601.04/2787 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2530 เรื่อง
คำแนะนำแนวทางการปฏิบัติและซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการแถลง
ข่าวต่อ สื่อมวลชน และ
3. หนังสือ ตร.ที่ 0608.5/4545 ลงวันที่ 19 พ.ค. 2531 เรื่อง กำชับ 2
การปฏิบัติและซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการแถลงข่าว หรือแพร่ภาพ
ต่อสื่อมวลชน
จนกระทั่งปี 2548 สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งที่ 855/2548 เรื่อง
การปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพ
ต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า
“ห้ามนำหรือจัดให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือพยาน มาให้ข่าวแถลงข่าว
หรือให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทุกแขนง ยกเว้นกรณีที่เป็นประโยชน์ต่อ
สาธารณชน ให้ขออนุญาตต่อผู้บัญชาการ”
“ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม ห้ามนำผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือพยานที่เป็น
เด็กอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ พระภิกษุสามเณร นักพรต นักบวช ผู้เสียหาย
ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ มาให้ข่าวแถลงข่าว หรือให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ทุกแขนงเป็นอันขาด รวมตลอดถึงการชี้ตัวผู้ต้องหาในลักษณะที่เป็นการ
เผชิญหน้าต่อสื่อมวลชนทุกแขนง” (ข้อ 1.2.4)
สถาบันพระปกเกล้า