Page 274 - kpi16607
P. 274
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
วิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ....ที่จัดทำขึ้นโดย คณะกรรมาธิการการปฏิรูปการสื่อสาร
มวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
การกำกับดูแลกันเองไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าว ทำให้สื่อมวลชนถูกวิพากษ์
วิจารณ์จากสังคมอย่างรุนแรงโดยเฉพาะในช่วงก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่
22 พฤษภาคม 2557 ว่า มีส่วนในการสร้างความเกลียดชังระหว่างฝ่ายต่างๆ
จนเป็นชนวนเหตุนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมือง ทำให้มีการเรียกร้องให้มีการ
ปฏิรูปสื่อและนำมาสู่การเสนอร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริม
จริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนข้างต้น
อย่างไรก็ตามปัญหาของสื่อมวลชนมิได้มีมิติในทางการเมือง เพียงด้านเดียว
ในด้านมิติทางสังคมนั้น สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวและภาพเกี่ยวกับเด็กและ
เยาวชนที่ถูกละเมิดในรูปแบบต่างๆอยู่เสมอ อาทิ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกทอดทิ้ง ครอบครัวแตกแยก รวมทั้งเด็กและเยาวชน
2 ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมต่างๆ เช่น ยาเสพติด ทำร้ายร่างกาย
ข่มขืน ชิงทรัพย์ ฯลฯ
แน่นอนว่า การนำเสนอข่าวเหล่านี้ของสื่อมวลชนย่อมเป็นประโยชน์แก่
สังคมในแง่เป็นบทเรียนที่จะกระตุ้นเตือนให้สังคมร่วมมือในการแก้ไขปัญหา
เกิดขึ้น
แต่ข้อเท็จจริงที่พบเสมอคือการนำเสนอข่าวและภาพข่าวการเป็นละเมิดหรือ
ซ้ำเติม เด็กและเยาวชน หรือเป็นการละเมิดซ้ำจนส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก
เยาวชนและครอบครัว รวมถึงอนาคตของเด็กและเยาวชน
สื่อมีเสรีภาพ แต่ต้องไม่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
นับแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา
มีบทบัญญัติในการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนไว้อย่างค่อนข้างกว้างขวาง
ซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่ยังคงบัญญัติในเรื่องดังกล่าวไว้ในมาตรา 45 ว่า
สถาบันพระปกเกล้า