Page 102 - kpi16607
P. 102

ดุลอำนาจ   ในการเมืองการปกครองไทย





                     ในทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพเช่นนี้จะนำมาซึ่งการลงทุนจากต่างประเทศ

               ที่มากขึ้น และในทางความมั่นคง เสถียรภาพเช่นนี้จะนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อย
               แต่เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปจากยุคสงครามเย็นแล้ว รัฐประหารกลับกลายเป็นการ
               ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการไร้ขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

               ทางการเมือง พร้อมๆ กับเป็นการบ่งบอกถึงแนวโน้มของความไร้เสถียรภาพที่จะ
               เกิดขึ้นในอีกแบบหนึ่ง เพราะรัฐประหารในยุคปัจจุบันมักจะตามมาพร้อมกับการ
               ต่อต้านของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และขณะเดียวกัน การต่อต้านเช่นนี้ก็มีโอกาสขยาย

               ตัวไปสู่เวทีระหว่างประเทศได้ง่าย เพราะในด้านหนึ่ง รัฐมหาอำนาจมีท่าทีที่ชัดเจน
               แล้วว่า พวกเขาไม่สนับสนุนรัฐบาลทหาร  ดังจะเห็นได้จากปัญหาการ “แซงชั่น”
                                                  44
               ที่รัฐบาลเมียนมาต้องเผชิญมาแล้ว และในอีกด้านหนึ่งอันเป็นผลจากการขยายตัว

               ของกระแสประชาธิปไตยที่ขับเคลื่อนโดยสื่อใหม่ในรูปแบบต่างๆ รัฐประหารจึงไม่
               เพียงจะถูกมองว่าเป็น “อนารยะทางการเมือง” เท่านั้น หากรัฐบาลทหารยังถูก
               มองด้วยสายตาที่ “เหยียดหยาม” และไม่ได้รับการยอมรับจากเวทีสากลเป็นอย่าง

               ยิ่ง เพียงแต่เมื่อต้องพบกันในเวทีการประชุมระหว่างประเทศ เขาอาจจะรักษา
           4   มารยาททางการทูตที่จะไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้นเอง แต่ถ้าจะ

               คิดว่าการไม่แสดงออกโดยตรงเป็นการแสดงท่าทีถึงการยอมรับต่อการรัฐประหาร

               และการจัดตั้งรัฐบาลทหารของไทยแล้ว ก็อาจจะต้องยอมรับว่าเป็นการคิดผิด
               เพราะถ้าโลกยอมรับการรัฐประหารแล้ว การแซงชั่นกับรัฐบาลทหารเมียนมาจะไม่
               เกิดขึ้น มิใยจะต้องกล่าวถึงการแสดงอาการ “รังเกียจทางการทูต” ต่อรัฐบาล

               ดังกล่าว... รัฐบาลทหารที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นในปี พ.ศ. 2549 หรือในปี พ.ศ.
               2557 ล้วนแต่โชคดีเท่านั้นเอง เพราะหลายประเทศจำเป็นจะต้องประคับประคอง
               ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในโลกของการแข่งขันปัจจุบัน และไม่อาจ

               ใช้นโยบาย “โดดเดี่ยว” กับรัฐบาลไทยได้ ทุกประเทศจึงได้แต่มีความหวังว่า
               การเมืองไทยจะกลับสู่ภาวะปกติบนถนนสายประชาธิปไตยโดยเร็ว และที่สำคัญ
               ก็คือ ไม่มีใครต้องการเห็นความขัดแย้งในการเมืองไทยเดินไปสู่ความเป็น “วิกฤต

               ใหญ่” จนกลายเป็นปัญหาการเมืองในภูมิภาคนี้

                  44   ดูทัศนะของสหรัฐฯ ต่อปัญหาประชาธิปไตยใน Stanley A. Renshon, National
               Security in the Obama Administration (London: Routledge, 2010), pp. 53-56
               นอกจากนี้ผู้สนใจอาจดูจากคำแถลงที่เป็นทางการ เช่น ถ้อยแถลงของทำเนียบขาว หรือถ้อยแถลง
               ของสหภาพยุโรปต่อรัฐประหารในประเทศไทย เป็นต้น



         สถาบันพระปกเกล้า
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107