Page 102 - kpi15695
P. 102
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
ลงโทษไล่นางมาลีออกจากราชการ นางมาลีได้มีหนังสืออุทธรณ์คำสั่ง
ดังกล่าว ก.พ.ได้พิจารณาแล้วมีมติยกอุทธรณ์ของนางมาลีและ
นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์ตามมติของ ก.พ. นางมาลีไม่เห็นด้วย
กับคำสั่งลงโทษดังกล่าว จึงได้ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอน
คำสั่งลงโทษไล่ออก
ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อ.๔๖๓/๒๕๔๓
ว่า จากพยานหลักฐานแสดงว่า นางมาลีผู้ฟ้องคดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับ
การโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างรายนี้เกินกว่าการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ทั่วไป พยานบุคคลแต่ละคนไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองเรื่องใดกับผู้ฟ้องคดี
ที่จะกลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี จึงเชื่อว่า ผู้ฟ้องคดีเรียกรับเงินจำนวน
๒,๕๐๐ บาท ตามที่ถูกกล่าวหาจริง และแม้ผู้ฟ้องคดีไม่ใช่พนักงาน
เจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโดยตรง แต่เมื่อผู้ฟ้องคดีขณะถูก
กล่าวหาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ดิน ๔
สำนักงานที่ดิน มีหน้าที่พิมพ์สัญญาและแก้ทะเบียนย่อมมีหน้าที่ราชการ
เกี่ยวข้องกับการ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม เมื่อได้เสนอตัวช่วยเหลือ นางอ่อน
(ผู้ซื้อ) และนางสาวพิณ (ผู้ขาย) ให้เสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมให้น้อยลงได้ ในที่สุดนางอ่อน (ผู้ซื้อ) ยอมมอบเงินให้
แก่ผู้ฟ้องคดีเป็นเงิน ๒,๕๐๐ บาท ตามที่ผู้ฟ้องคดีเรียกร้อง พฤติการณ์
ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการจึงเป็นการเรียกรับ
เงินโดยมิชอบจากผู้มาติดต่อราชการ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
โดยมิชอบเพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่
ราชการ และยังเป็นการกระทำอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่าง
ร้ายแรง ซึ่งเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง คำสั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดี
ออกจากราชการตามมติ อ.ก.พ. กรมที่ดิน จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
9