Page 114 - kpiebook67026
P. 114

113



               โดยผลของการประกาศใช้ National Civil and Commercial Code ("NCCC")
               ซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไขเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2015 โดยมาตรา 26 ของกฎหมาย NCCC

               บัญญัติให้การใช้สิทธิของผู้เยาวต้องกระท�าผ่านทางการให้ความยินยอมจากผู้แทน
               โดยชอบธรรมตามกฎหมาย ซึ่งกล่าวได้ว่า ผู้เยาวจะต้องมีอายุและวุฒิภาวะที่เพียงพอ

               ต่อการด�าเนินการใด ๆ อันมีผลในทางกฎหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็น
               ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพของผู้เยาวนั้นมักจะถูกก�าหนดโดยกฎเกณฑ

               ที่มีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับอายุของเด็กนั้น ส�าหรับวัยรุ่น (Adolescents)
               ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณขึ้นไป จะได้รับการพิจารณาว่ามีสถานะเป็นผู้ใหญ่ (adults)

               และได้รับเคารพต่อการตัดสินใจในเรื่องการรักษาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับร่างกายของ
               ตนเอง ในขณะที่บุคคลที่มีอายุระหว่าง 13 ปี ถึง 16 ปีบริบูรณ จะได้รับการยอมรับ

               ให้มีความสามารถในการตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการรักษาทางการแพทยได้ด้วยตนเอง
               แต่ทั้งนี้การรักษาดังกล่าวจะต้องไม่เป็นการแทรกแซงหรือเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง

               ต่อชีวิตหรือความสมบูรณเป็นหนึ่งเดียวของร่างกาย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ “กระบวนการ
               แทรกแซงทางการแพทย” ได้ถูกนิยามให้เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะก่อให้เกิดอันตราย

               ต่อสุขภาพหรือความสมบูรณของร่างกายของผู้เยาว หรืออาจท�าให้ชีวิตของผู้เยาว
               ตกอยู่ในความเสี่ยงภัยอันตราย ด้วยเหตุนี้ บุคคลมีอายุระหว่าง 13 ปี ถึง 16 ปีบริบูรณ

               จะต้องให้ความยินยอมด้วยตนเองโดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้แทนโดยชอบธรรม
               และการพิจารณาเกี่ยวกับการให้ความเห็นทางการแพทยจะต้องเป็นการไปหลัก

               ผลประโยชนที่ดีที่สุด เพื่อท�าการวิเคราะหถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากการเข้า
                                                                                   67
               สู่กระบวนการรักษาทางการแพทย หรือไม่ได้เข้าสู่กระบวนการรักษาทางการแพทยด้วย

                      กระบวนการยื่นและพิจารณาค�าขอ

                      ตามกฎหมายว่าด้วยอัตลักษณทางเพศสภาพ ค.ศ. 2012 (Law No. 26.743)

               ได้ก�าหนดกระบวนการพิจารณาทางปกครองเพื่อรับรองเพศสภาพไว้ โดยบัญญัติว่า
               บุคคลทุกคนย่อมสามารถร้องขอให้มีการแก้ไขเกี่ยวกับการระบุเพศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลง

               ชื่อแรกและภาพถ่ายภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้  โดยจะต้องมีการยื่นค�าร้อง

               67    FELGTBI+, Right to Self-determination of Gender: Comparative law study
               on five questions related to gender identity, p.17, Access July 20, 2023,
               file:///C:/Users/Dell/Downloads/RIGHT_TO_SELF_DETERMINATION_OF_GENDER_
               COMPARATIVE_LAW_STUDY.pdf
   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119