Page 497 - kpiebook67020
P. 497
496 การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต
ในงานศึกษาของ Janjira (2021) ได้น�าเสนอว่าประเทศไทยใช้วิธีการ
จัดการข้อมูลที่บิดเบือนโดย “ท�าให้เป็นเรื่องความมั่นคง” (securitization) ซึ่งเป็น
การเคลื่อนย้ายประเด็นที่ควรจะเป็นเรื่องการเมือง จากพื้นที่ทางการเมืองปกติ
ไปสู่พื้นที่เรื่องความมั่นคง ซึ่งเมื่อเรื่องข่าวปลอมถูกท�าให้เป็นเรื่องภัยคุกคามเรื่อง
ความมั่นคงแล้ว กระบวนการในการก�าหนดนโยบายและการน�านโยบายไปปฏิบัติ
สามารถท�าได้โดยไม่ต้องมีการปรึกษาหารือทางการเมือง ซึ่งการท�าให้เรื่องข้อมูล
ข่าวสารที่บิดเบือนกลายเป็นเรื่องความมั่นคงนั้น ตัวแสดงทางความมั่นคงต่าง ๆ เช่น
กองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสถาบันคลังสมองด้านความมั่นคง อาจก�าหนด
เรื่องการแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารแตกต่างจากรูปแบบที่เป็นทางการของภัยคุกคาม
ต่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งภัยคุกคามนี้ ควรเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญที่จะก�าหนดว่า
อะไรเป็นสิ่งที่ “ถูกต้อง” หรืออะไรเป็นสิ่งที่ “ผิด” การเคลื่อนย้ายประเด็นนี้จาก
อาณาบริเวณทางนโยบายของการเมืองปกติไปสู่พื้นที่เรื่องความมั่นคง ท�าให้ตัวแสดง
ทางด้านความมั่นคงต้องขอสาธารณชนในการ “ให้อ�านาจ” แก่ตนเองอย่างกว้างขวาง
ในการจัดการภัยคุกคามของข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน
ในงานศึกษาของ Schuldt (2021) ซึ่งศึกษาเรื่องการท�าสงครามกับข่าวปลอม
โดยศึกษาเปรียบเทียบการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานของรัฐในมาเลเซีย
สิงคโปร์ และไทย โดยในกรณีของไทยนั้น งานศึกษานี้ได้อธิบายว่า กฎหมายที่ถูกน�า
มาใช้ในการจัดการข่าวปลอมคือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าผิดเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกแก้ไขใหม่โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติในปี พ.ศ. 2560
และประกาศใช้เป็น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 โดยการก�าหนดโทษผู้ส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จให้เป็นคดีอาญา
(criminalization) ซึ่งกฎหมายนี้ได้กลายเป็นฐานในการด�าเนินคดีอาญาและจับกุม
ประชาชนเป็นจ�านวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และในประเทศไทย ข่าวปลอมก�าลัง