Page 34 - kpiebook67019
P. 34
33
และระยะยาวเพื่อพัฒนาเป็นนโยบายต่อไป และยังสอดคล้องกับงานของ
Forester (2009) ได้อธิบายถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเจรจาที่มีประสิทธิภาพ
(คู่กรณีพึงพอใจ) (effective negotiation) กับการส่งเสียงหรือการมีส่วนร่วม
(low voice/ participation) เป็นการจัดการกับความแตกต่างด้วยการไกล่เกลี่ย
ข้อพิพาทและผู้นำาแบบอำานวยความสะดวก ซึ่งเป็นการบูรณาการทั้งการส่งเสียง
ของประชาชน และข้อตกลงที่เกิดความพึงพอใจ ผ่านการไกล่เกลี่ยโดย
คนกลางและการประชาคมในความขัดแย้งต่างๆ
ปัจจัยที่นำาไปสู่ความสำาเร็จในการไกล่เกลี่ยโดยคนกลาง
กล่าวในภาพรวม ประกอบด้วย 1) คนกลาง 2) คู่กรณี 3) ความสัมพันธ์
และความไว้วางใจ 4) บริบทสภาพแวดล้อมและ 5) ทรัพยากรที่เพียงพอ
และยังคงมีปัจจัยย่อย อีกเป็นจำานวนมาก เช่น 1. การเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ถึงเส้นตายที่ต้องตัดสินใจว่าจะตกลงหรือดำาเนินคดีต่อไป 2. การยอมรับ
กระบวนการทางกฎหมาย 3. การเลือกผู้ไกล่เกลี่ยที่ได้รับความไว้วางใจจาก
คู่กรณี 4. การเตรียมตัวของคู่ความ 5. อำานาจในการทำาข้อตกลงของคู่เจรจา
6. การทำาข้อตกลงที่ชัดเจน
สำาหรับอุปสรรคของการไกล่เกลี่ยหรือปัจจัยที่อาจทำาให้การไกล่เกลี่ย
ไม่ประสบความสำาเร็จมีหลายประการ เช่น มีคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการ
เหมือนถูกกีดกันออกไป คู่เจรจาไม่ต้องการเจรจาจริงๆ เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องการ
แค่ “Recognition” การปฏิบัติตามข้อตกลงจะมีความยุ่งยาก ระยะเวลา
ที่ต้องคงกองกำาลังไว้ของฝ่ายที่สาม เพื่อไม่ให้เกิดการใช้กองกำาลังต่อสู้กัน
สไตล์การไกล่เกลี่ยแบบใช้อำานาจน้อยๆ ไม่ใช่แบบอำานาจเหนือกว่า
การไกล่เกลี่ยในชุมชนจึงมีทั้งความเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
ที่ใช้ความเป็นผู้นำาตามธรรมชาติกับการอาศัยฐานอำานาจตามกฎหมาย
รองรับ การไกล่เกลี่ยในชุมชนที่เน้นความเป็นผู้นำาตามธรรมชาติไม่เน้น
inside_ .indd 33 26/10/2566 10:54:09