Page 4 - kpiebook67014
P. 4
บทที่ 1
บทน า
1.1 หลักการและเหตุผล
นับตั้งแต่ยุคหลังสิ้นสุดสงครามเย็นเป็นต้นมา นัยยะของความมั่นคงของชาติได้มีการเปลี่ยนแปลงไปและ
มิได้มีความหมายจ ากัดเพียงความมั่นคงของรัฐเท่านั้น แต่ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติกลายเป็นเรื่องที่ไม่
เกี่ยวกับการทหารและการใช้กองก าลังอีกต่อไป เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก การตกอยู่ใน
สภาวะขาดแคลนทรัพยากรที่จ าเป็น การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ การย้ายถิ่นฐานข้ามแดนผิดกฎหมาย
ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ การถูกโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ เป็นต้น (Mely Caballero-Anthony, 2016)
ความมั่นคงในมุมมองใหม่นี้จึงเป็นความมั่นคงใหม่ (new security) มีความเกี่ยวข้องและส่งผลกระทบต่อความ
มั่นคงของมนุษย์ (human security) และความมั่นคงทางสังคม (societal security) โดยตรง
ความมั่นคงทางสังคมนั้น ในแง่มุมของหลักสิทธิมนุษยชน ความมั่นคงทางสังคมเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงมีเพื่อให้
มีหลักประกันต่อสิทธิและเสรีภาพ รวมทั้งการรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความมั่นคงทางสังคมจึงมีความส าคัญ
ต่อการลดความเหลื่อมล้ า ป้องกันการกีดกันทางสังคม (social exclusion) และส่งเสริมให้เกิดการยอมรับกันอย่าง
เท่าเทียม (social inclusion) (UN Human Rights, 2022) ขณะเดียวกันในแง่มุมทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทาง
สังคมเป็นการปกป้องคุ้มครองทางสังคมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถเข้าถึงระบบบริการสุขภาพและมีการรับรอง
ความมั่นคงทางรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส าหรับกลุ่มเปราะบางทางสังคม (International Labour
Organization, 2022) ความมั่นคงทางสังคมจึงมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ทั้งในระดับ
ปัจเจก ครัวเรือน และสังคม
การเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมเป็นการปกป้องคุ้มครองและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในการ
ด าเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งมีส่วนส าคัญในการลดความเหลื่อมล้ าและส่งเสริมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วยการ
สร้างหลักประกันต่อสิทธิและเสรีภาพ สร้างกลไกเพื่อขจัดเงื่อนไขที่เป็นภัยคุกคามต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ตลอดจนสนับสนุนความต้องการพื้นฐานที่พึงได้รับและความจ าเป็นในการด ารงชีวิต การเสริมสร้างความมั่นคงทาง
สังคมจึงมีความสอดคล้องตามวิถีทางของการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการพื้นฐานการค านึงถึง
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ส่งเสริมการมีสิทธิและเสรีภาพ และรับรองความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน (people
well-being)
ขณะเดียวกัน แนวคิดภูมิคุ้มกันทางสังคม (social immunity) ซึ่งเป็นแนวคิดในแวดวงสาธารณสุขที่
อธิบายถึงกลไกของร่างกายมนุษย์ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อต้านเชื้อโรคทั้งภายในและภายนอกร่างกาย แต่
แนวคิดนี้ยังถูกน ามาใช้ท าความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งในแง่มุมอื่น ๆ ทั้งด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์
สังคมศาสตร์ โดยมองว่าภูมิคุ้มกันทางสังคมคือ ความสามารถของสังคมในการรับมือต่อความเสี่ยงจากปัจจัย
ภายนอกและการคุกคามที่เป็นผลมาจากการแทรกซึมของคุณค่า บรรทัดฐาน แบบแผนพฤติกรรมของวัฒนธรรม
อื่นที่เข้าสู่สังคม และอาจส่งผลต่อความเป็นกลุ่มก้อนและการปรับตัวของสังคมหนึ่ง ๆ จึงต้องมีการเสริมสร้างกลไก
ป้องกันสังคมเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันในการปกป้องและขัดขวางภัยคุกคามจากภายนอก การปรับตัวของประชาชนต่อ
สภาพแวดล้อมภายนอก ตลอดจนการหลวมรวมและรักษาความเป็นหนึ่งเดียวกันของสังคมท่ามกลางบริบทการ
พัฒนาที่ไม่สมดุล (Julia Myslyakova, 2020) ภูมิคุ้มกันทางสังคมจึงเป็นที่มาของการรักษาเสถียรภาพของกลไก
ในสังคมและการมีมาตรการที่จ าเป็นเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และรับมือกับภัยคุกคามได้
อย่างมีประสิทธิภาพ (Niklas Luhmann, 2013)
- 1 -