Page 81 - kpiebook67011
P. 81

80      ประชาธิปไตยในความคิดของฮันนาห์ อาเรนดท์







             การเมืองกลายเป็นเรื่องของ “ผู้มีอาชีพเฉพาะทางการเมือง” อันเป็นคนกลุ่มหนึ่งจ�านวนน้อยที่ก้าวเข้าไป

             เป็นตัวแทน เช่นเดียวกับที่การปกครองก็ได้กลายเป็นเรื่องของ “ผู้มีความเป็นมืออาชีพทางการปกครอง”
             ทั้งหลายในระบบราชการโดยที่ประชาชนถูกแยกออกมาต่างหาก การเมืองและการปกครองซึ่งครั้งหนึ่ง

             เคยเป็นเรื่องโดยตรงของพลเมืองในสมัยกรีกโบราณกลายเป็นเรื่องที่ตัดขาดจากชีวิตประจ�าวันอย่างสิ้นเชิง
             ในแง่นี้ การเมืองได้แปรสภาพจากการเป็นกิจกรรมของการแสดงตนในพื้นที่ของโลกแห่งการปรากฏ

             ให้กลายเป็นเพียงงานประเภทหนึ่งในขอบเขตทางสังคมที่สร้างความมั่นคงและความชัดเจนแน่นอน
             ให้กับรัฐ สิ่งนี้เราอาจจะเห็นได้จากวิธีการคิดการมองระบบการเมืองในแบบทฤษฎีระบบหรือในทางสถาบัน

             ที่มองการเมืองเป็นกระบวนการผลิตเชิงนโยบายออกมาตอบสนองแก่ประชาชนผู้เป็นผู้ใช้ กล่าวอีก
             นัยหนึ่งคือ ประชาชนพลเมืองที่ควรเป็นตัวแสดงหลักในกระบวนการกลับเหลือเป็นเพียงผู้รอรับอย่าง

             ไร้ปากเสียงในระบบการเมืองปัจจุบันเท่านั้น

                      ในระบบการเมืองที่ลดทอนการเมืองให้เป็นเรื่องทางสังคมเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไปลด “เสียง” ของพลเมือง

             ลงและการแสดงตนก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกเอาใจใส่ หากมองด้วยมุมของอาเรนดท์แล้ว สภาพการณ์เช่นนี้เป็น

             สภาพที่เสี่ยงต่อการสูญสลายไปของขอบเขตทางการเมืองเป็นอย่างมาก ส�าหรับอาเรนดท์การสูญหายของ
             ขอบเขตทางการเมืองและพื้นที่สาธารณะเป็นสิ่งที่น�าไปสู่การลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นอย่างมาก
             เมื่อพิจารณาจากกรณีของการก้าวขึ้นสู่อ�านาจของพรรคนาซีที่เปลี่ยนพื้นที่สาธารณะทั้งหมดให้กลายเป็น

             ขอบเขตทางสังคมของชนเยอรมันแท้ จะเห็นได้ว่า “เสียง” ของชาวยิวย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ถูกได้ยิน และ “ตัวตน”

             ของพวกเขาก็ไม่เป็นที่ถูกรับรู้หรือยอมรับ ส�าหรับอาเรนดท์ การปกป้องขอบเขตทางการเมืองหรือ
             โลกแห่งการปรากฏนี้จึงเป็นสิ่งที่จ�าเป็น และหากมองจากมุมของอาเรนดท์แล้ว วิธีทางเดียวในการปกป้อง
             พื้นที่เช่นนี้ก็หาได้มีวิธีอื่นใดไม่นอกเหนือไปจากการสนับสนุนให้พลเมืองหรือประชาชนต้องเห็นคุณค่า

             ของการปฏิสัมพันธ์กันอย่างมีเสรีภาพและเท่าเทียมกันในพื้นที่สาธารณะ


                      นอกจากนี้ส�าหรับอาเรนดท์การมีส่วนร่วมโดยตรงของพลเมืองไม่ได้เป็นเพียงความหมายที่แท้จริง

             ของประชาธิปไตยหากแต่เป็นความหมายที่แท้จริงของค�าว่าการเมืองด้วย ในโลกที่ “การเข้าท�าการเมือง”
             และการเป็นประชาธิปไตยทางตรงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป การจะเกื้อหนุนขอบเขตและกิจกรรม
             ของการเมืองไว้ จึงท�าได้เพียงการสร้างพื้นที่ที่ให้ประชาชนเข้ามามีการสานสัมพันธ์กันอย่างเต็มที่โดยไม่มี

             การปิดกั้น เสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะจึงเป็นเงื่อนไขพื้นฐานส�าคัญของ

             การสร้างสรรค์การเมืองและการจรรโลงประชาธิปไตย และส�าหรับเธอแล้ว การเมืองไม่สามารถมีรูปแบบ
             อื่นใดนอกไปจากรูปแบบที่เรารู้จักกันในนามประชาธิปไตยเท่านั้น


                       อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเป็นประชาธิปไตยส�าหรับอาเรนดท์นั้น ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบเสรี
             และประชาธิปไตยแบบตัวแทน โดยเธอโต้แย้งถึงปัจจัยอันตรายสองประการ ที่ท�าให้ระบบประชาธิปไตย

             แบบตัวแทน ซึ่งเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นระบอบที่ดีในการปกครองอธิปไตยของประชาชน
             ในศตวรรษที่ 20 และ 21 แต่อาเรนดท์กลับมองว่าระบอบการปกครองดังกล่าวมีปัญหา โดยประการแรก

             คือ สถาบันการมีส่วนร่วมในระบบประชาธิปไตยแบบผู้แทนก�าลังอ่อนแอลงและเลือนหายไปโดยที่
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86