Page 29 - kpiebook67003
P. 29
จะมีเสรีภำพที่จะเลือกท�ำสัญญำกับบุคคลใดก็ได้ กรณีีนี้ย่อมถือได้ว่ำ
นำย ก. ตกอยู่ในภำวะที่ไม่เท่ำเทียมกับ นำย ข. หรือ บริษัท A ซ่่งกรณีี
มีประเด็นต้องพิจำรณีำต่อไปว่ำระบบกฎหมำยของประเทศไทยจะป้องกัน
และแก้ปัญหำดังกล่ำวอย่ำงไร เช่น หำกผู้ขำยก�ำหนดข้อจ�ำกัดควำมรับผิด
ในควำมช�ำรุดบกพร่องเอำไว้ในสัญญำ รัฐจะสำมำรถแทรกแซงและ
จ�ำกัดผลของข้อจ�ำกัดควำมรับผิดดังกล่ำวได้หรือไม่ (ซ่่งเป็นประเด็นที่จะ
ต้องพิจำรณีำตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยข้อสัญญำไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540
ต่อไป)
นอกเหนือจำกกำรมีข้อมูลไม่เท่ำเทียมกันระหว่ำงคู่สัญญำแล้ว
ควำมไม่เท่ำเทียมกันระหว่ำงคู่สัญญำยังอำจเกิดจำก “อ�ำนำจต่อรอง
ทำงเศรษฐกิจที่ไม่เท่ำเทียมกัน” ระหว่ำงคู่สัญญำได้ เช่น กรณีีของสัญญำ
จ้ำงแรงงำน สัญญำจ้ำงแรงงำนเป็นสัญญำระหว่ำงคู่สัญญำเอกชน ได้แก่
นำยจ้ำงและลูกจ้ำง อย่ำงไรก็ตำม โดยทั่วไปแล้วนำยจ้ำงมักจะมีอ�ำนำจ
17
ต่อรองในทำงเศรษฐกิจมำกกว่ำลูกจ้ำง และสำมำรถก�ำหนดข้อสัญญำ
ที่เป็นคุณีกับฝ่่ำยตนเอง โดยที่ฝ่่ำยลูกจ้ำงไม่อำจเจรจำต่อรองได้ในควำมเป็นจริง
ด้วยเหตุนี้ จ่งมีกำรตรำกฎหมำยว่ำด้วยกำรคุ้มครองแรงงำน (พระรำช-
บัญญัติคุ้มครองแรงงำน พ.ศ. 2541) เพื่อก�ำหนดมำตรฐำนขั้นต�่ำ
ในกำรคุ้มครองลูกจ้ำงและเข้ำแทรกแซงเสรีภำพในกำรท�ำสัญญำ
โดยคู่สัญญำไม่อำจตกลงกันยกเว้นพระรำชบัญญัติคุ้มครองแรงงำน
พ.ศ. 2541 ในทำงที่ท�ำให้ลูกจ้ำงเสียประโยชน์ได้ 18
17 วิจิตรำ (ฟุ้งลัดดำ) วิเชียรชม, ย่อหลักกฎหมำยแรงงำน: พื้นฐำนควำมรู้ทั่วไปกฎหมำยแรงงำน, พิมพ์ครั้งที่ 23
(ส�ำนักพิมพ์นิติธรรม: กรุงเทพมหำนคร พ.ศ. 2551), หน้ำ 40.
18 ค�ำพิพำกษำศำลฎีกำที่ 193/2534.
แนวคิิดและทฤษฎีีเกี่ี�ยวกี่ับกี่ารทำาสััญญาระหว่างเอกี่ชนและกี่ารแทรกี่โดยรัฐ 19