Page 25 - kpiebook67003
P. 25

1.1.2 แนำวคำิดเศัรษฐศั�สตร์เสรีนำิย่ม

                              (Economic Liberalism)

                      หลักเสรีภำพในกำรท�ำสัญญำนั้นตั้งอยู่บนสมมติฐำนแนวคิด

               เศรษฐศำสตร์เสรีนิยมแบบคลำสสิค ซ่่งรัฐควรปล่อยให้กลไกตลำด (Market
               Mechanism) ท�ำหน้ำที่ก�ำหนดว่ำควรจะมีกำรผลิตสินค้ำและบริกำรอะไร

               (What) ผลิตอย่ำงไร (How) และผลิตเพื่อใคร (For whom) โดยปล่อยให้
               ปัจเจกบุคคลท�ำธุรกรรมทำงเศรษฐกิจ ทั้งนี้ บนพื้นฐำนของควำมเชื่อว่ำ

               ปัจเจกชนเป็นผู้มีควำมสำมำรถตัดสินใจได้ (Rational being) จ่งสำมำรถ
               ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองได้ (Self-Interest Protection) และจะตัดสินใจ

               กระท�ำกำรในสิ่งที่ตนเห็นว่ำเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ตนเอง (Maximum
               Benefits) 9


                      เมื่อระบบเศรษฐกิจให้ควำมส�ำคัญกับกำรตัดสินใจของปัจเจกบุคคล
               ดังนั้น  กฎเกณีฑ์์ที่ดีที่สุดที่สังคมควรจะมีก็คือ  กฎเกณีฑ์์ที่บุคคลซ่่งมี

               ควำมเท่ำเทียมกันไม่ว่ำในแง่ของอ�ำนำจในกำรต่อรอง ทักษะ หรือควำมรู้
               เป็นผู้ตกลงกันเอง โดยถือว่ำกฎเกณีฑ์์ที่ได้ตกลงกันนั้นเป็นกฎเกณีฑ์์อันหน่่ง

               ที่เกิดจำกเจตนำที่ให้ใช้บังคับแก่กรณีีของตนเองโดยเฉพำะซ่่งจะเป็น
                                                               10
               กฎเกณีฑ์์ที่จะก่อให้เกิดควำมยุติธรรมแก่เอกชนด้วยกันเอง  และในขณีะ
               เดียวกัน  รัฐก็ควรที่จะต้องลดบทบำทในกำรแทรกแซงซ่่งกฎเกณีฑ์์ที่เอกชน
                                                                       11
               ได้ตกลงกันข่้นและมีหน้ำที่บังคับให้กำรเป็นไปตำมกฎเกณีฑ์์เหล่ำนั้น


               8   ศักดำ ธนิตกุล, แนวคิด หลักกฎหมำย และค�ำพิพำกษำ: กฎหมำยกับธุรกิจ พิมพ์ครั้งที่ 3 (กรงเทพฯ: ส�ำนัก
               พิมพ์นิติธรรม, 2555), หน้ำ 5.
               9  พินัย ณี นคร, กฎหมำยว่ำด้วยข้อสัญญำไม่เป็นธรรม: แนววิเครำะห์ใหม่เชิงเปรียบเทียบ, วำรสำรนิติศำสตร์
               30: 4 หน้ำ 550 และโปรดดู รำยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดทำงเศรษฐศำสตร์และกฎหมำยเพิ่มเติมใน ธัญญำนุช
               ตันติกุล, กำรผิดสัญญำในมุมมองทำงเศรษฐศำสตร์, ดุลพำห (เล่มที่ 3 ปีที่ 55 กันยำยน-ธันวำคม พ.ศ. 2551).
               10  ดำรำพร อ้างแล้ว เชิงอรรถที่ 5 หน้ำ 16.
               11  Roscoe Pound, ‘Liberty of Contract’ Yale Law Journal (1909), หน้ำ 456-457.



                                  แนวคิิดและทฤษฎีีเกี่ี�ยวกี่ับกี่ารทำาสััญญาระหว่างเอกี่ชนและกี่ารแทรกี่โดยรัฐ  15
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30