Page 24 - kpiebook67003
P. 24
1.1.1 แนำวคำิดปัจเจกชนำนำิย่ม (Individualism)
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้เกิดแนวคิดเรื่องปัจเจกชนนิยมข่้น
เพื่อต่อสู้กับรัฐ แนวคิดดังกล่ำวยืนยันว่ำรัฐจะต้องรับรู้ถ่งสิทธิส่วนบุคคล
ให้มำกที่สุดเท่ำที่จะเป็นไปได้ รัฐจะต้องรับรองเสรีภำพส่วนบุคคลซ่่งมนุษย์
มีอยู่ตำมธรรมชำติและจะต้องไม่ท�ำลำยสิทธิพื้นฐำนของบุคคล
5
อิสระของปัจเจกชนทั้งหลำยที่จะก�ำหนดขอบเขตในทำงกฎหมำย
ของตนอย่ำงไร กับใคร ด้วยวิธีกำรอย่ำงไร หรือมีเนื้อหำอย่ำงไรก็ได้
รวมทั้งสำมำรถใช้เสรีภำพของตนเองจ�ำกัดเสรีภำพของตนเองในอนำคต
6
ได้อีกด้วย และสำมำรถกล่ำวได้ว่ำหลักเสรีภำพในกำรท�ำสัญญำนั้น
เป็นส่วนหน่่งของหลักอิสระในทำงแพ่ง (Private Autonomy) ซ่่งหมำยถ่ง
อ�ำนำจของเอกชนในกำรตัดสินใจเกี่ยวกับขอบเขตทำงกฎหมำยของตนเอง
ทั้งในส่วนตัวและในทำงทรัพย์สิน ในทำงส่วนตัว เช่น เรื่องกำรสมรส
กำรหย่ำ ในทำงทรัพย์สิน เช่น กำรซื้อขำย กำรให้ กำรแลกเปลี่ยน
7
ซ่่งสำมำรถจัดกำรโดยใช้นิติกรรมสัญญำ
5 ดำรำพร ถิระวัฒน์, กฎหมำยสัญญำ: สถำนะใหม่ของสัญญำในปัจจุบันและปัญหำข้อสัญญำที่ไม่เป็นธรรม,
(พิมพ์ครั้งที่ 2) (กรุงเทพฯ: ส�ำนักพิมพ์ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์, 2542), หน้ำ 15.
6 ศนันกรณี์, อ้างแล้ว เชิงอรรถที่ 1, หน้ำ 295.
7 เพิ่งอ้ำง.
14 กฎหมายที่่�เก่�ยวกับการที่ำาสััญญาที่างแพ่่งที่่�อาจก่อให้เกิดความไม่เป็็นธรรมเน่�องจากความไม่เสัมอภาคของค่่สััญญา