Page 177 - kpiebook67003
P. 177
5.3 ก�รศัึกษ�แล้ะวิจัย่ในำอันำ�คำต
เพื่อให้แนวทำงกำรด�ำเนินกำรเพื่อลดควำมไม่เสมอภำคในกำรท�ำ
สัญญำระหว่ำงคู่สัญญำที่เป็นเอกชนด้วยกันตำมที่ได้เสนอในหัวข้อ 5.1 และ
5.2 สำมำรถด�ำเนินกำรได้จริง งำนวิจัยนี้จ่งขอเสนอกำรศ่กษำและวิจัย
ในอนำคตที่จะมีส่วนสนับสนุนในกำรพัฒนำเนื้อหำของพระรำชบัญญัติ
ว่ำด้วยข้อสัญญำที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 และกำรท�ำให้แนวปฏิิบัติส�ำหรับ
คู่สัญญำมีผลบังคับใช้ในทำงปฏิิบัติ ดังต่อไปนี้
5.3.1 ก�รพัฒนำ�เนำ้�อัห�ข้อังพระร�ชบััญญัติว่�ด้วย่
ข้้อัสัญญ�ท์ี�ไม่เป็นำธรรม พ.ศั. 2540
หำกจะมีกำรแก้ไขเพื่อเพิ่มเติมเนื้อหำของพระรำชบัญญัติว่ำด้วย
ข้อสัญญำที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 เช่น ลักษณีะของข้อสัญญำ
ที่ไม่เป็นธรรม ตำมมำตรำ 4 ตำมแนวทำงของ UCTA และ UTCD
หน่วยงำนของรัฐที่เกี่ยวข้องควรจะด�ำเนินกำรตำมแนวทำงของ
พระรำชบัญญัติหลักเกณีฑ์์กำรจัดท�ำร่ำงกฎหมำยและกำรประเมินผล
สัมฤทธิ์ของกฎหมำย พ.ศ. 2562 ซ่่งจะต้องมีกำรแสดงเหตุผลควำมจ�ำเป็น
ในกำรตรำกฎหมำยและต้องวิเครำะห์โดยมีข้อมูลและเอกสำรหลักฐำน
ประกอบชัดเจนว่ำไม่เป็นกำรสร้ำงภำระแก่ประชำชนเกินควำมจ�ำเป็น
แนวทางการดำำาเนินการเพื่่�อลดำความไม่เสมอภาคในการทำาสัญญาระหว่างค่่สัญญาท่�เป็็นเอกชนดำ้วยกัน 167