Page 107 - kpiebook67003
P. 107
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจ�ำกัดในทำงกฎหมำยดังกล่ำวผู้กู้และผู้ให้กู้อำจเลือกที่จะ
ท�ำนิติกรรมอ�ำพรำงกำรกู้ยืมเงิน (3.3.2.1) และอำจท�ำสัญญำหลำยฉบับ
เพื่อเลี่ยงกำรตกอยู่ในบังคับของข้อห้ำมกำรเรียกดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตรำ
(3.3.2.2)
3.3.2.1 นำิติกรรมอัำ�พร�ง
ในกรณีีข้ำงต้น ผู้กู้และผู้ให้กู้อำจตกลงกันท�ำนิติกรรมอ�ำพรำง
สัญญำกู้ยืมเงิน เช่น ท�ำสัญญำซื้อขำยเพื่ออ�ำพรำงสัญญำกู้ยืมเงิน
โดยผู้ให้กู้สมคบกับผู้กู้แสดงออกว่ำท�ำสัญญำซื้อขำยทรัพย์สินรำคำ
10 ล้ำนบำท มีก�ำหนดช�ำระรำคำเมื่อครบก�ำหนดหน่่งปีนับแต่วันท�ำสัญญำ
เพื่ออ�ำพรำงสัญญำกู้ยืมเงิน 8 ล้ำนบำท ซ่่งคิดดอกเบี้ย 2 ล้ำนบำท
(ร้อยละ 20 ต่อปีอันเป็นอัตรำเกินกว่ำที่กฎหมำยก�ำหนด) ตำมประมวล
กฎหมำยแพ่งและพำณีิชย์ มำตรำ 155 วรรคหน่่ง บัญญัติว่ำกำรแสดง
เจตนำลวง โดยสมรู้กับคู่กรณีีอีกฝ่่ำยหน่่งเป็นโมฆะซ่่งหมำยควำมว่ำสัญญำ
ซื้อขำยย่อมตกเป็นโมฆะ และเมื่อสัญญำซื้อขำยถูกท�ำข่้นเพื่ออ�ำพรำง
สัญญำกู้ยืมเงิน มำตรำ 155 วรรคสองให้น�ำบทบัญญัติของกฎหมำย
อันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอ�ำพรำงมำใช้บังคับ
ดังนั้น คู่สัญญำจ่งต้องผูกพันกันตำมสัญญำกู้ยืมเงินซ่่งเป็นนิติกรรม
ที่ถูกอ�ำพรำงอยู่ และในกรณีีนี้ดอกเบี้ยในอัตรำร้อยละ 20 ต่อปี ย่อมตก
เป็นโมฆะ ในขณีะเดียวกันผู้ให้กู้ต้องระวำงโทษจ�ำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับ
ไม่เกินสองแสนบำท หรือทั้งจ�ำทั้งปรับตำมมำตรำ 4 ของพระรำชบัญญัติ
ห้ำมเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรำ พ.ศ. 2560 ซ่่งใช้บังคับกับกำรกระท�ำอันมี
ลักษณีะเป็นกำรอ�ำพรำงกำรให้กู้ยืมเงิน
บทบัญญัติิในประมวลกฎหมายแพ่่งและพ่าณิิชย์ท่�ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมติ่อค่่สััญญา 97