Page 277 - kpiebook66030
P. 277
สรุปการประชุมวิชาการ 2
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 24
ความท้าทายของความมั่นคงใหม่กับประชาธิปไตย
บทนำ
อากาศเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต แต่มลพิษทางอากาศเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต่อ
ชีวิตมนุษย์ และไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้ รัฐบาลมีบทบาทสำคัญในรับมือกับ
ภัยคุกคามนี้ ในการพิจารณาข้อถกเถียงสำคัญหรือโต้แย้งทางการเมือง (Political argument)
ที่เกี่ยวกับ “สิ่งแวดล้อม” แนวคิดแบบเสรีนิยมประชาธิปไตยมักพิจารณาภัยคุกคามด้าน
สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นเชิงพื้นที่ซึ่งต้องคำนึงถึงระดับการเมืองที่หลากหลายตั้งแต่ท้องถิ่น
ไปจนถึงระดับโลก แต่เมื่อมองในลักษณะเชิงพื้นที่เช่นนี้ทำให้นักสิ่งแวดล้อมในโลกเสรีนิยม
ประชาธิปไตยมักถูกมองว่าเป็นเพียงตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์หรือระบบพหุสังคม
ที่มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายในการเมืองแบบประชาธิปไตยเท่านั้น (Dryzek, Honig, &
Phillips, 2009)
ในทางกลับกัน การรับมือกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมต้องอาศัยนักปกครองที่มีความรู้เฉพาะทาง
เช่น ความรู้วิทยาศาสตร์ที่มักไม่เปิดพื้นที่ให้แก่ข้อสงสัยหรือข้อถกเถียง หรืออาจไปไกลถึงขั้น
เรียกร้องระบอบการปกครองแบบเผด็จการ เพราะวิกฤติสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับความเป็น
ความตายของมนุษย์ จึงต้องการรับมืออย่างเร่งด่วนและเป็นหนึ่งเดียว มีข้อสังเกตว่ารัฐ-ชาติ
ที่เน้นการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจรับมือกับความท้าทายรูปแบบใหม่ได้ประสบความสำเร็จ
“เร็วกว่า” ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เพราะความแตกต่างอันหลากหลาย การรับฟัง
ความเห็นจากประชาชน และกระบวนการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจต้องอาศัยกระบวนการ
ทางการเมืองอันซับซ้อนและใช้เวลายาวนานกว่ารัฐประชาธิปไตยจะเริ่มรับมือ ปัญหา
สิ่งแวดล้อม เหล่านั้นได้ลุกลามและแก้ไขยากขึ้นแล้ว (Vincent, 2013)
มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบสำคัญต่อระบบนิเวศ ทัศนวิสัย ชั้นบรรยากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสาธารณสุขซึ่งบั่นทอนสุขภาพของประชาชนโดยตรง
(Zhu et al., 2018) นับตั้งแต่ในปี 1997 สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐาน
คุณภาพอากาศสิ่งแวดล้อมและกำหนดความเข้มข้นสูงสุดของ PM2.5 ต่อมาประเทศอื่น ๆ
และองค์กรระหว่างประเทศพยายามกำหนดความเข้มข้นของ PM2.5 แต่เนื่องจากแต่ละ
ประเทศมีบริบทสังคมเมือง สภาพเศรษฐกิจสังคม ความพร้อมทางเทคโนโลยีและการเงิน
และลักษณะนิสัยของประชาชนที่แตกต่างกัน ทำให้มาตรฐาน PM2.5 ที่บังคับใช้แตกต่างกัน
โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะกำหนดค่ามาตรฐานของ PM2.5 ไว้อย่างเข้มงวด คือ
12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m ) ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาจะกำหนดมาตรฐาน
3
ไว้ต่ำเพราะยังต้องอาศัยการพัฒนาทางเศรษฐกิจและพึ่งพิงอุตสาหกรรมหนัก คือ 50 µg/m
3
(ศิริมา ปัญญาเมธีกุล & ธงชัย พรรณสวัสดิ์, 2562)
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) เผยว่าประชากรโลก บทความที่ผ่านการพิจารณา
ร้อยละ 90 ได้สูดอากาศที่ปนเปื้อนมลพิษเข้าไปทุกวัน โดยเฉพาะประชากรที่อาศัยอยู่ใน