Page 96 - kpiebook66025
P. 96
96 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
61
หรือแนวคิดทางการเมือง นักวิชาการคนส�าคัญของอินโดนีเซียอย่างอูลลา (Ulla)
ได้วิเคราะห์การรวมกลุ่มในรัฐสภาในอินโดนีเซีย ว่ามีการร่วมกลุ่มในรัฐสภามากกว่า
10 กลุ่ม แต่อิทธิพลของการรวมกลุ่มภายในมีพลวัตที่ค่อนข้างน้อยต่อการเปลี่ยนแปลง
พวกกลุ่มการเมืองในรัฐสภามักจะถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้อุปถัมภ์มากกว่าน�าเสนอประเด็น
ทางสังคม แนวคิดที่แตกต่างหรือการสังกัดศาสนาที่แตกต่างกันน�าไปสู่การเลือกกลุ่ม
สังกัดที่ต่างกัน จึงท�าให้การรวมกลุ่มในช่วงแรกไม่ได้มีพลวัตมากพอในการขับเคลื่อน
ประเด็นทางสังคมหรือตั้งค�าถามต่อการท�างานของฝ่ายบริหาร ความเปลี่ยนแปลง
ดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคปฏิรูปที่บทบาทของกลุ่มในรัฐสภาเริ่มมีพลวัตมากขึ้น
ในยุคปฏิรูปการรวมกลุ่มของสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซีย เกิดขึ้นตามโครงสร้างของ
พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคการเมืองจะต้องเป็นอิสระในการเลือกกลุ่ม
เพราะมีผลต่อการปฏิบัติงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยก�าหนดให้สมาชิก
รัฐสภาทุกคนจะต้องเป็นสมาชิกของกลุ่มในรัฐสภาอย่างน้อย 1 กลุ่ม ซึ่งมีพื้นฐาน
มาจากสมาชิกรัฐสภาที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในรัฐสภาจนน�าไปสู่การร่วมมือกันก่อตั้ง
กลุ่มขึ้นมา ก่อนหน้านี้บทบาทหน้าที่ของกลุ่มในรัฐสภาและพรรคการเมืองแทบไม่
แตกต่างกัน แต่หลังจากมีการปฏิรูปท�าให้บทบาทหน้าที่ของกลุ่มในรัฐสภามีอิสระ
ไม่ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองต้นสังกัด และสามารถก่อตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมาใหม่ได้
หากกลุ่มเดิมไม่สามารถตอบโจทย์หรือวัตถุประสงค์ทางอุดมการณ์ความคิดได้เช่นเดิม
เช่น การปรากฏตัวของกลุ่มยุติธรรมทางสังคม หรือแม้กระทั่งกลุ่มทหารและกลุ่มต�ารวจ
ก็มีกลุ่มทางการเมืองเป็นของตัวเอง โดยสมาชิกของแต่ละกลุ่มจะปรากฏอยู่ในแต่ละ
กรรมาธิการ คณะกรรมาธิการสามัญ คณะกรรมาธิการปฏิบัติงาน คณะกรรมาธิการ
พิเศษด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้รัฐสภาอินโดนีเซียมีทั้งหมด 9 กรรมาธิการ ท�างานตามข้อก�าหนด
ในรัฐธรรมนูญโดยท�าหน้าที่ในการอภิปรายเกี่ยวกับร่างกฎหมายก่อนการลงมติ
รับรองกฎหมาย แต่ละกรรมาธิการจะมีกรรมาธิการย่อยลงไปอีกเพื่อให้การท�างาน
มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแต่ละกรรมาธิการจะต้องมีสมาชิกกลุ่มการเมืองประมาณ
1 ใน 9 ของจ�านวนสมาชิกในแต่ละกรรมาธิการ เช่น กลุ่ม PDIP มีสมาชิกในกลุ่มการเมือง
61 Chamber, Paul; Ufen, Andreas, “Causes, Effects and Forms of Factionalism
in Southeast Asia,” Journal of Current Southeast Asian Affairs 39(1), pp. 1 - 16.