Page 367 - kpiebook65072
P. 367
366 บทบัญญัติทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
1. การกำาหนดอายุความ โดยหลักจะส่งผลให้เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
ตามที่กฎหมายกำาหนดก็จะไม่สามารถนำาตัวบุคคลผู้กระทำาความผิด
มาดำาเนินคดีได้ ยิ่งผู้กระทำาความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยแล้ว
ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่จะอาศัยช่องทางหรือความช่วยเหลือที่ทำาให้
ยังไม่ถูกนำาตัวมาดำาเนินคดีจนกว่าจะหมดอายุความ ดังนั้น ผู้วิจัย
จึงเห็นว่าไม่ควรกำาหนดอายุความสำาหรับการกระทำาความผิด
ตามร่างพระราชบัญญัติฯ เพื่อเป็นหลักประกันให้แก่ผู้ได้รับ
ความเสียหายว่าผู้กระทำาความผิดจะไม่สามารถหลบหนีการดำาเนิน
คดีได้ด้วยเหตุผลด้านอายุความ
2. การไม่กำาหนดอายุความเป็นการสะท้อนถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิม
ของผู้ร่างอนุสัญญา CED โดยสังเกตได้จากการใช้คำาในตัวบท
ที่ระบุว่า “รัฐภาคีซึ่งกำาหนดให้มีอายุความ” (“A State Party
which applies a statute of limitations”) อันหมายความว่า
หลักการพื้นฐาน คือ การไม่กำาหนดอายุความ แต่หากรัฐภาคี
จะกำาหนด ก็จะต้องกำาหนดภายใต้กรอบที่อนุสัญญา CED กำาหนด
คือ ต้องมีความยาวและได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิด
7.2.4 การห้ามอ้างพฤติการณ์พิเศษหรือสถานการณ์ฉุกเฉินฯ
อนุสัญญา CAT และอนุสัญญา CED ต่างกำาหนดห้ามมิให้มีการอ้าง
พฤติการณ์พิเศษใด ๆ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อเป็นข้ออ้างในการกระทำา
ความผิด ซึ่งเป็นการยืนยันการเคารพหลักการที่ว่าสิทธิที่จะไม่ถูกทรมานและ
สิทธิที่จะไม่ถูกกระทำาให้สูญหายนั้นเป็นสิทธิสมบูรณ์และไม่อาจถูกรอนสิทธิได้
(Non-Derogable Rights) โดยรัฐที่นำามาเป็นกรณีศึกษามีแนวทางการระบุ
704
ห้ามอ้างพฤติการณ์พิเศษหรือสถานการณ์ฉุกเฉินในกฎหมายภายใน ดังนี้
704 โปรดดูหัวข้อ 4.1.2.
inside_ .indd 366 14/9/2565 11:15:10