Page 130 - kpiebook65071
P. 130
129
การทำาให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตนอาจไม่ได้เป็น
การกำาจัดความเสี่ยงที่ว่าบุคคลนั้นสามารถถูกบ่งชี้ตัวตนอีกครั้งโดยที่อาจมี
ความเป็นไปได้ว่าชุดข้อมูล (Dataset) หรือข้อมูลอื่นอาจไปสอดคล้องหรือ
ตรงกับข้อมูลที่ถูกทำาให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ทั้งนี้ ความเสี่ยงของกรณี
การที่ข้อมูลสามารถถูกบ่งชี้ตัวตนได้อีกครั้ง จำาต้องมีการประเมินและบริหาร
จัดการเพื่อลดความเสี่ยงอยู่เสมอ โดยที่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องเมื่อต้องกำาหนดว่า
ข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกดำาเนินการให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตนได้นั้น
อาจเกี่ยวเนื่องไปถึงต้นทุน ความยากลำาบาก การปฏิบัติได้จริง (Practicality)
และความเป็นไปได้ในการที่ข้อมูลนั้นอาจถูกทำาให้สามารถระบุตัวตนได้
อีกครั้ง
3.4.2 กรณีศึกษา
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2021 คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลและ
ข้อมูลส่วนบุคคลของออสเตรเลีย (Australian Information Commissioner
and Privacy Commissioner : AICPC) มีคำาวินิจฉัยว่า Uber B.V.
เข้าแทรกแซงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานราว 1.2 ล้านคน โดยมีเหตุผล
สำาคัญว่า Uber ฝ่าฝืน AUS PA 1988 เนื่องจากไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง
ตามสมควรในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของชาวออสเตรเลียจากการเข้าถึง
โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และทำาลายหรือทำาให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่อาจถูกระบุ
ตัวตนได้ตามแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ
ประเทศออสเตรเลีย 191
191 OAIC, ‘Uber found to have interfered with privacy’ (OAIC, July 2021)
< https ://www.oaic.gov.au/updates/news-and-media/uber-found-to-have-
interfered-with-privacy/> accessed 3 October 2021.