Page 129 - kpiebook65071
P. 129

128   บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
             และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


           เนื่องจากข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตนได้นั้น อาจสร้างประโยชน์หรือคุณค่า

           แก่หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเอกชนหรือบุคคลภายนอกได้ต่อไปอีก
           ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่หน่วยงานหรือองค์กรแบ่งปันข้อมูลที่ไม่สามารถ
           บ่งชี้ตัวตนต่อนักวิจัย หรือ ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตนเพื่อการพัฒนา

                       190
           ผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวหลักการคุ้มครองข้อมูล
           ส่วนบุคคลของประเทศออสเตรเลียได้มีการกำาหนดและชี้แนะแนวทาง

           ในการปฏิบัติต่อกรณีของการทำาให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถ
           บ่งชี้ตัวตนได้ โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกทำาให้ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตนได้
           เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามารถบ่งชี้ตัวตน

           หรือบุคคลที่สามารถบ่งชี้ตัวตนอย่างสมเหตุสมผลได้ อย่างไรก็ตาม แนวทาง
           ปฏิบัติฉบับนี้ กล่าวไว้ว่าข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตนได้นั้นไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล


                   โดยการทำาให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวตน คือ การกำาจัด
           หรือเปลี่ยนแปลง (Alter) ข้อมูลที่บ่งชี้บุคคล หรือมีลักษณะที่อาจสามารถ
           บ่งชี้ตัวตนได้ ทั้งนี้ ขั้นตอนในการทำาให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้

           ตัวตนได้อาจประกอบไปด้วย 2 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

                   •  ลบตัวบ่งชี้บุคคล (Personal Identifiers) เช่น ชื่อ ที่อยู่

                       วันเกิด หรือข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนอื่น ๆ ของบุคคล และ

                   •  ลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่นที่อาจเป็นการยอมให้บุคคลนั้น

                       ถูกบ่งชี้ตัวตน ยกตัวอย่างเช่น ลักษณะของบุคลิกภาพที่มี
                       ลักษณะพบเจอได้ยากหรือลักษณะของบุคลิกภาพที่เมื่อรวม
                       กันแล้วมีลักษณะพิเศษ หรือมีลักษณะโดดเด่นที่ทำาให้สามารถ

                       บ่งชี้หรือระบุตัวตนได้



           190  Ibid, para 11.41.
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134