Page 247 - kpiebook65056
P. 247
246 ผู้ นร รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 247
สมาคมแรกมีฐานะเป นนิติบุคคลในวันรุ่งข ้นโดยมีพระยานิติศาสตร์ ครั้นถ งเดือนมกราคม พ.ศ. 2475 หลวงประดิษฐ์ฯ ซ ่งเป น
เป นนายกสภากรรมการสมาคม มีนายประยูร ภมรมนตรี เป นอุปนายก มือกฎหมาย และผู้มีบทบาทด้านการเมืองของคณะราษฎรได้ว่างจาก
และมีนายวนิช ปานานนท์ เป นเลขาธิการ ส่วนนายสงวน ตุลารักษ์ นั้นเป น การทำางานสำาคั ได้แก่การร่างรัฐธรรมนู ถาวรฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
เหรั ิก ที่น่าแปลกใจคือ ไม่มีชื่อหลวงประดิษฐ์มนูธรรมดำารงตำาแหน่งสำาคั กับการทำาร่างกฎหมายเลือกตั้งฉบับแรกให้ออกมาเป นกฎหมายเรียบร้อย
ของสมาคมการเมืองแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำาแหน่งเลขาธิการสมาคม แล้ว จ งได้เข้ามาดำาเนินการแก้ข้อบังคับของสมาคมคณะราษฎรที่เรียกว่า
ซ ่งถือกันว่าเป นตำาแหน่งสำาคั มากของสมาคม ผู้ที่ดำารงตำาแหน่งกลายเป น ธรรมนู คณะราษฎร โครงสร้างของพรรคตามที่ปราก จากผังที่ทำานั้น
นายวนิช ซ ่งเป นผู้ก่อการฯ พลเรือน แต่อยู่ในสายทหารเรือ เพราะเคยเป น จะเห็นได้ว่าเป นการมองภาพรวมของทั้งประเทศ ไม่ใช่เพียงศูนย์กลางหรือ
นักเรียนนายเรือมาก่อน หากแต่ได้ลาออกไปประกอบอาชีพทางการค้า หัวใจของประเทศที่จังหวัดพระนครซ ่งเป นเมืองหลวงเท่านั้น หากแต่ได้ไปถ ง
ท่านผู้นี้เป นน้องเขยของนาวาตรีหลวงสินธุสงครามชัย ตัวจังหวัด ไปยังอำาเภอ ตำาบลและหมู่บ้านเลยทีเดียว การจัดโครงสร้างสมาคม
คณะราษฎรแบบนี้ไม่เคยได้ยินว่าถูกโจมตีว่าเป นแบบคอมมิวนิสต์ ทั้งที่
การตั้งสมาคมคณะราษฎรนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร พิจารณาดู
จากการป ิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศอื่น ที่เกิดข ้นมาในช่วง บางอย่างมีส่วนคล้ายกับโครงสร้างการมีหน่วยงานของพรรคของสหภาพโซเวียต
เวลา 20 ป ก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในประเทศไทย ที่จริงการจัดโครงสร้างสมาคมแบบนี้เป นการย ดกับโครงสร้างการปกครอง
จะเห็นว่า คณะป ิวัติหรือคณะรัฐประหารที่เข้าย ดอำานาจการปกครองใน ของไทยที่มีอยู่ก่อน พ.ศ. 2475 แล้วก็ได้ ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อมีกฎหมาย
ประเทศเหล่านั้น ได้ตั้งองค์การทางการเมืองที่เรียกว่าพรรคการเมืองข ้นมา การปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ได้มีกำานันในตำาบล และมีผู้ให ่บ้านในหมู่บ้าน
เป นเครื่องมือ ในการระดมประชาชนเข้ามาสนับสนุนรัฐบาลด้วยกันทั้งนั้น การมีหน่วยปกครองจากเบื้องบนที่เป นจังหวัด อำาเภอ ตำาบล และหมู่บ้าน
การเปลี่ยนร่างขององค์กรจากองค์กรป ดลับเพื่อการป ิวัติ มาเป นองค์กรเป ด จ งเป นของเดิมของระบบการปกครองไทยในภูมิภาค จะข้ามหน่วยเทศาภิบาล
ที่สามารถระดมคนเข้ามาทำางานสนับสนุนได้อย่างเป ดเผย และป ิบัติการ หรือมณ ลไป ก็เพราะหน่วยนี้เป นที่รู้กันดีแล้วในตอนนั้นว่าตั้งใจจะเลิก
ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น จ งเป นสิ่งที่แตกต่างกันอยู่แล้วกับยามที่ อยู่แล้วก็ได้ ด้วยเหตุนี้ การที่มีการเพ่งเล็งที่เค้าโครงเศรษฐกิจมาก และ
ทำางานลับใต้ดิน มุ่งหวังใช้กำาลังเข้าย ดอำานาจ กับยามที่ ายตนมีอำานาจ กลายเป นกรณีที่ยกมาเป นจุดแตกหักระหว่างรัฐบาลของพระยามโนฯ กับ
เป นผู้ปกครองเองจ งต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบขององค์กรของตน มาเป น สภาผู้แทนราษฎรทำาให้เป นเรื่องที่ต้องมองพิจารณาอย่างรอบด้าน ว่าเป น
องค์กรที่ถูกกฎหมาย และเปลี่ยนวิธีการที่จะรักษาอำานาจที่ต้องดำาเนินการให้ ประเด็นหลักหรือเปล่า ดังนั้นจ งมีข้อสังเกตว่า ที่จริงเป นการขัดแย้งระหว่าง
ถูกกฎหมายอีกเช่นกัน และวิธีการที่จะรักษาอำานาจ ที่ดำาเนินการโดยเป ดเผย พระยามโนฯ กับหลวงประดิษฐ์ฯ ในทางการเมืองและเรื่องที่ขัดกันอย่างสำาคั
และถูกต้องโดยกฎหมายนั้นก็คือการเตรียมตัวสู่สนามเลือกตั้ง จ งเป นเรื่องของการตั้งสมาคมการเมืองหรือสมาคมคณะราษฎร ที่จะเป น
องค์กรการเมืองที่สำาคั ของคณะราษฎรหรือ ายของหลวงประดิษฐ์ฯ ที่จะใช้
ในการแสวงหาความชอบธรรมในกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ครั้งแรก ที่จะต้องเกิดข ้นในป พ.ศ. 2476 นั่นเอง