Page 22 - kpiebook65030
P. 22
21
ที่สามคือ กำาหนดโครงสร้างข้อถกเถียงจนมาถึงข้อสรุปที่เป็นฉันทามติร่วมกัน
และในขั้นตอนที่สี่จึงเป็นการสื่อสารผลลัพธ์ที่ได้จากการร่างตัวโครงร่างที่ผ่าน
การมีส่วนร่วมสาธารณะของประชาชนกลุ่มตัวอย่าง
ค�ำถำมที่น่ำสนใจท้ำยเวทีสำธำรณะ
เมื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นสุดงานสัมมนาครั้งนี้ งานสัมมนา
สาธารณะได้มีการเปิดให้มีถามคำาถามจากผู้เข้าร่วมรับฟังสัมมนา โดย
ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ที่ได้ตั้งคำาถาม
เรื่องแนวทางการออกแบบรัฐธรรมนูญภายใต้ความคิดเห็นต่างของสังคมไทย
ที่มีต่อความจำาเป็นของโครงสร้างทางการเมืองในไทย อาทิ ระบบเลือกตั้ง
พรรคการเมือง หรือสภาเดี่ยวหรือสภาคู่ เป็นต้น กรณีดังกล่าวจะสามารถออกแบบ
ได้อย่างไร รวมถึงการนำา deliberative democracy มาใช้จะมีแนวโน้มสำาเร็จ
มากเพียงใด โดยวิทยากรได้ให้คำาตอบว่าควรเริ่มต้นจากการให้ความรู้อันครบถ้วน
แก่ประชาชนให้เข้าใจประเด็นที่ประชาชนสงสัย เพื่อให้เกิดการนำาไปเปรียบเทียบ
และพิจารณาข้อดีข้อเสียภายใต้บริบทวัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชน
ในประเทศนั้นๆ เอง ทั้งนี้กระบวนการ deliberative democracy เป็นกระบวนการ
สำาหรับการออกแบบนโยบาย แต่การจะนำามาใช้กับกระบวนการรับฟังความคิดเห็น
ออกแบบรัฐธรรมนูญก็อาจเป็นไปได้ด้วยดีก็ได้ ทว่าอย่างไรก็ตาม ยังต้องระมัดระวัง
เรื่องบทบาทของชนชั้นนำาในการเข้ามาแทรกแซงชี้นำาทางการเมืองในการให้ข้อมูล
หรือแม้แต่การแทรกแซงผลลัพธ์ของกระบวนการ
นอกจากนั้นยังมีคำาถามของปุรวิชญ์ วัฒนสุข นักวิชาการสถาบัน
พระปกเกล้า โดยกล่าวถึงบทเรียนจากความสำาเร็จของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ
ของชิลี ซึ่งวิทยากรก็เห็นด้วยกับความสำาเร็จที่เกิดจากผู้ออกแบบกระบวนการ